ตั้งครรภ์ ในสถานการณ์การระบาดของ COVID19


ครั้งหนึ่งในชีวิตหมอคนนึง

เคยแต่ได้ยินเรื่องโรคระบาดในสมัยยุคกลาง ร้อยปี สองร้อยปีก่อน

นึกไม่ถึงว่าตัวเองจะมาอยู่ในเหตุการณ์แบบในวันนี้


ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นหมออายุรกรรม ไม่ได้เป็นหมอโรคปอด ไม่ได้เป็นหมอโรคติดเชื้อ ซึ่งเป็นทัพหน้าในการต่อสู้กับโรคระบาดในครั้งนี้

แต่สูตินรีแพทย์ก็มีหน้าที่ดูแลคุณแม่ ตรวจท้อง ทำคลอด ผ่าตัดคลอดให้คุณแม่และทารกในครรภ์อยู่รอดปลอดภัยท่ามกลางสถานการณ์แบบนี้

เมื่อผ่านช่วงนี้ไปแล้ว สักวันคนรุ่นเราก็จะมีภูมิต้านทานต่อไวรัสนี้เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติในที่สุด ผ่านเรื่องนี้ไปแล้ว มันก็เหมือนตำนานเรื่องเล่า เล่าให้ลูกฟังถึงช่วงเวลาที่เขาเกิดมา


การตั้งครรภ์ในช่วงที่มีโรคระบาดนี้ เป็นเรื่องที่น่ากังวลสำหรับคุณแม่ คุณพ่อ และทุกคนในครอบครัวมาก เพราะหากเป็นอะไรขึ้นมาก็ย่อมกระทบถึงลูกในท้องได้ ที่สำคัญโรคนี้เป็นโรคที่เกิดขึ้นมาใหม่ ... 4เดือนก่อนยังไม่มีใครรู้จักโรคนี้เลย ในเมื่อเป็นโรคที่เกิดใหม่ ยาก็ยังไม่มี วัคซีนก็อยู่ในระหว่างการคิดค้น ข้อมูลต่างๆก็ยังมีน้อย น้อยเกินกว่าที่จะบอกค่าทางสถิติได้อย่างชัดเจน


จากการเปลี่ยนแปลงของร่างกายคุณแม่ในระหว่างตั้งครรภ์ ภูมิต้านทานที่น้อยลง ดูเหมือนว่าคนท้องอาจจะมีโอกาสติดเชื้อ Corona Virus ได้ง่ายกว่าคนปกติ อาการของคุณแม่ก็เหมือนคนที่ไม่ท้องอื่นๆ ที่พบได้บ่อยๆก็คือ ไข้ ไอ หอบเหนื่อย แต่ก็โชคดีที่ว่าความรุนแรงของโรคในคนท้องไม่ได้รุนแรงกว่าที่เกิดขึ้นกับคนปกติ แตกต่างจากโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธ์A โรคซาร์ โรคเมอร์ส ที่คนท้องมักจะมีอาการรุนแรง มีปอดบวม มีการหายใจล้มเหลว และเสียชีวิตมากกว่า



ความรู้ในเรื่องผลของโรคนี้ต่อการตั้งครรภ์มีจำกัดน้อยนิดมาก แต่จากการศึกษาในสตรีตั้งครรภ์ที่จีนจำนวน 41 ราย จาก 6 สถาบัน รายงานโดยสมาคมสูตินรีแพทย์อเมริกัน ... ถึงแม้ประเทศจีนกับอเมริกาจะมีความขัดแย้งกันบ้าง แต่ข้อมูลทางการแพทย์เขาก็ยังแชร์กัน ศึกษาร่วมกันตลอดนะครับ

ผลการศึกษาพบว่า....

คุณแม่ที่ติดเชื้อCOVID19นั้น ยังไม่พบว่ามีใครแท้งช่วงไตรมาสแรกเลย อัตราการแท้งก็เท่าเดิมนะครับ

แต่คุณแม่จะมีปัญหาคลอดก่อนกำหนดมากขึ้นกว่าปกติ

ปกติแล้วคุณแม่ปกติจะมีอัตราการคลอดก่อนกำหนดประมาณ 10-15% แต่ถ้าคุณแม่ติดCOVID โอกาสที่จะคลอดก่อนกำหนด 37 สัปดาห์ มีถึง 41.1% เลยทีเดียว บางรายก็มีโอกาสคลอดก่อน 34 สัปดาห์ได้ถึง 15%

มีโอกาสน้ำเดินและคลอดก่อนกำหนดได้ถึง 18.8%

มีโอกาสมีภาวะครรภ์เป็นพิษ13.6% ในขณะที่คนท้องปกติเกิดครรภ์เป็นพิษ 2-5%

โรค COVID19 เป็นโรคที่โจมตีระบบทางเดินหายใจ แต่ก็โชคดีที่มันไม่ได้ทำให้เกิดภาวะเติบโตช้าในครรภ์เลย เนื่องจากเด็กมักจะเติบโตช้าหากขาดออกซิเจนติดต่อกันนานๆ

พอมาถึงตอนคลอด พบว่าการขาดออกซิเจนจากปอดที่ติดเชื้อจะทำให้เกิดภาวะการขาดออกซิเจนของทารกในระหว่างการคลอด (fetal distress)ได้ถึง 43% ทำให้อัตราการผ่าตัดคลอดสูงมากถึง 91% อัตราการเสียชีวิตปริกำเนิด(perinatal death)มากถึง 7% (stillbirth 1, neonatal death 1) อัตราการแอดมิต NICU สูงถึง 8.7%




เห็นชัดเลยว่าปัญหามันจะเกิดตอนคลอดนี่แหละ เพราะปอดมันจะส่งออกซิเจนมาได้น้อยลงในยามที่แม่และลูกต้องการออกซิเจนมากขึ้น

ยังไงก็ตามก็ยังไม่มีข้อกำหนดหรือมาตราฐานของมานะครับว่า คุณแม่ที่ติด COVID19นั้นควรให้คลอดเอง หรือผ่าตัดคลอดดี

จากความเห็นส่วนตัวนะครับ

ถ้ามันมีอัตราการผ่าตัดคลอดสูงถึง 91% แล้วการคลอดเองอาจมีปัญหาการขาดออกซิเจนได้มากถึง 43% ก็ไม่ควรทำอะไรที่มีความเสี่ยงมากขึ้นครับ

อีกทั้งการผ่าตัดคลอดคนไข้จะถูกบล๊อคหลัง อยู่ในอาการสงบ ใส่หน้ากากอนามัย ครอบด้วยกล่องอครีลิคป้องการบุคคลากรทางการแพทย์จากการติดเชื้อเป็นอย่างดี

เปรียบเทียบกับให้คุณแม่ที่ติดเชื้อ COVID คลอดเอง คุณแม่จะร้อง จะควบคุมตัวเองยาก จะเบ่ง จะหอบ จะไอ ควบคุมการกระจายเชื้อยากมาก ทั้งหมอทั้งพยาบาลในห้องคลอดยากที่จะสามารถป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อได้

.. ยังไงรอดูนะครับว่า มาตราฐานทางการแพทย์จะเอายังไงต่อ 

แต่ที่โชคดีคือ แม่ติดเชื้อCOVID19 ลูกที่อยู่ในครรภ์จะปลอดภัยนะครับ ไม่พบมีการติดเชื้อจากแม่สู่ลูกในครรภ์แต่อย่างใดๆ อย่างไรก็ตามลูกที่เกิดมาก็ต้องดูแลเหมือนผู้ป่วยสัมผัสเชื้อด้วยเหมือนกันนะครับ



คราวนี้ก็มาถึงว่าคุณแม่สามารถให้ลูกกินนมแม่ได้มั๊ย

สำหรับคุณแม่ที่ติดเชื้อ หรือสงสัยว่ามีการติดเชื้อนะครับ ก็ยังไม่มีข้อกำหนดอะไรออกมาชัดเจน อันนี้ก็เลยอาศัยวิธีปฏิบัติของ องค์กรควบคุมโรคของสหรัฐ CDC ไปก่อนละกันนะครับ....

ผลการศึกษาของ CDC พบว่า ไวรัสนี้ยังไม่ถูกตรวจพบในน้ำนมแม่ แต่ก็ยังมีการศึกษาเฝ้าระวังไปเรื่อยๆก่อนนะครับ ... เบื้องต้นเอาเป็นว่าไวรัสไม่ออกทางน้ำนมแม่

สิ่งที่ต้องระวังคือ ไม่แนะนำให้ลูกนมจากเต้าแม่โดยตรงครับ เพราะเราก็ไม่รู้ว่าจะมีเชื้อไวรัสติดปนเปื้อนอยู่ตามร่างกายตรงไหนบ้าง แนะนำให้ปั๊มนม และนำนมแม่มาป้อนให้กับทารกจะดีกว่า ก่อนปั๊มนมคุณแม่ควรอาบน้ำชำระร่างกายให้สะอาด ฆ่าเชื้ออุปกรณ์ต่างๆเป็นอย่างดี ทุกอย่างในภาชนะบรรจุต้องดูแลเป็นระบบปิด ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือฆ่าเชื้อที่มือ ที่เต้านมอย่างดี แล้วทำการปั๊มนมด้วยเครื่องปั๊มนมไฟฟ้า

ช่วงสถานการณ์โรคระบาดนี้ คนคลอดลูกก็ไม่ได้น้อยลง เพราะคุณแม่ท้องกันมาตั้งแต่ 9 เดือนก่อนแล้ว ตอนนี้ก็เลยอยากให้คุณแม่ทุกคนดูแลตัวเองให้ดีที่สุด อยู่แต่ในบ้าน งดสังสรรค์ งดเยี่ยม มา รพ.เท่าที่จำเป็น มาคลอดแล้วรีบกลับ แล้วเราจะผ่านช่วงเวลานี้ไปด้วยกัน ....

ก็มีคนถามมาต่ออีกว่า Stay Home แล้ว อีก 9 เดือนหน้าจะคลอดกันเยอะมั๊ย

นี่ก็เป็นห่วงเหมือนกันนะ อยู่แต่บ้านกลิ้งไปกลิ้งมาก็ไม่รู้จะทำอะไรดี ยังไงก็คุมกำเนิดกันดีดีนะครับ ,,,, เด๋วจะมีคนชื่อ "โกวิท" เต็มเมืองไปหมด

อ่านต่อตรงนี้ด้วยนะ ตั้งครรภ์อยู่..ฉีดวัคซีนโควิดดีไหม.??

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม