Prostaglandins


ฮอร์โมนตัวนี้ จะว่าไปแล้วมันก็ไม่ได้เป็นฮอร์โมนจริงๆเหมือน เอสโตรเจน โปรเจสเตอรโรน หรือ hCG ที่เคยเล่าเรื่องกันมา เพราะฮอร์โมนจริงๆแล้วจะสร้างจากต่อมไร้ท่อ แล้วเดินทางเข้าสู่กระแสเลือดไปออกฤทธิ์ที่อวัยวะเป้าหมาย แต่เจ้าโปรสต้าแกลนดินที่ว่านี้เป็นกรดไขมันที่ทุกเซลที่มีนิวเคลียสในร่างกายของเราสามารถสร้างเองได้ ฮอร์โมนสามารถออกฤทธิ์ในอวัยวะไกลๆได้ แต่โปรสต้าแกลนดินจะมีฤทธิ์เฉพาะที่ สร้างที่บริเวณใดก็มักจะออกฤทธิ์ที่นั่น ไม่ได้มีผลต่ออวัยวะที่อยู่ไกลออกไป โปรสต้าแกลนดินที่สร้างมาจากแต่ละที่ก็มีชื่อเรียกย่อยแตกต่างกันไป .. โปรสต้าแกลนดิน ตัวแรกเลยที่เรารู้จักก็ถูกค้นพบมาตั้งแต่ ปี1935 โดยนักวิทยาศาสตร์ชาวสวีเดน โดยสกัดมาได้จากน้ำอสุจิ ก็เลยเรียกเจ้ากรดไขมันตัวนี้ว่า Prostaglandins เนื่องจากเชื่อว่าเจ้าสารตัวนี้คงสร้างมาจากต่อมลูกหมากที่มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Prostateนั่นเอง แม้ว่าภายหลังได้มีการค้นพบกรดไขมันตัวนี้ในที่อื่นๆอีกมากมาย แต่ก็ยังใช้ชื่อว่า Prostaglandins เหมือนเดิม แม้ว่ามันไม่ได้สร้างจากต่อมลูกหมากด้วยซ้ำไป

 

โปรสต้าแกลนดินที่ว่านี้ค้นพบครั้งแรกจากน้ำอสุจิของผู้ชาย แต่บทบาทของมันในผู้ชายไม่เยอะแยะซับซ้อนเหมือนในผู้หญิง ผู้หญิงที่ไม่ตั้งครรภ์ฮอร์โมนนี้ก็มีบทบาทเรื่องราวเยอะ ในช่วงแรกของรอบเดือนมดลูกก็จะสร้างโปรสต้าแกลนดินที่ชื่อว่า PGF2α ออกมา แรกๆก็ออกมาไม่มากเท่าไหร่ จะมาสร้างมากขึ้นก็ช่วงกลางๆ จนถึงช่วงท้ายของรอบเดือน ทำให้เกิดการหดรัดตัวของหลอดเลือดในบริเวณเยื่อบุโพรงมดลูก ทำให้เยื่อบุขาดเลือด และมีการสลายของเนื้อเยื่อ และมีประจำเดือนตามมา ในขณะเดียวกันเจ้าโปรสต้าแกลนดินตัวเดียวกันนี้ก็ยังมีผลต่อการหดรัดตัวของมดลูกซึ่งถ้ารุนแรงก็จะทำให้กล้ามเนื้อมดลูกขาดเลือดและมีอาการปวดท้องประจำเดือนตามมา

 

ผู้หญิงหลายๆคนก็มักมีอาการท้องเสียในช่วงที่มีประจำเดือนด้วย บางทีเราก็นึกว่ามันปวดท้องปวดมดลูก บางทีก็ทำให้รู้สึกปวดท้องถ่ายตามไปด้วย ที่จริงแล้วมันไม่ได้รู้สึกปวดไปเองครับ มันมีอาการท้องเสียในระหว่างมีประจำเดือนจริงๆ เพราะโปรสต้าแกลนดินตัวนี้นี่แหละจะไปทำให้มีการขับน้ำออกมาเยอะในระบบทางเดินอาหาร ทำให้ปวดท้อง ท้องเสียถ่ายเป็นน้ำในระหว่างที่มีประจำเดือน

 

จะได้รู้กันไปเลยว่าที่ปวดประจำเดือนก็เพราะฮอร์โมนตัวนี้ ที่ท้องเสียก็ฮอร์โมนตัวนี้เหมือนกัน

 

สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ ฮอร์โมนตัวนี้ก็ยิ่งมีหน้าที่สลับซับซ้อนยิ่งกว่าเดิมอีก มันมีบทบาทไปซะทุกเรื่อง ทุกระบบ ในระหว่างที่ตั้งครรภ์ คุณแม่จะมีปริมาณสารน้ำ มีปริมาณเลือดในร่างกายเพิ่มขึ้น โดยหลักใหญ่ๆแล้วฮอร์โมนโปรเจสเตอรโรนที่พูดถึงเมื่อครั้งที่แล้วจะเป็นตัวที่ทำให้เส้นเลือดขยายตัว รองรับปริมาณเลือดที่เพิ่มขึ้น แต่ฮอร์โมนที่ควบคุมในแต่ละส่วนย่อยๆ ในแต่ละจุดของร่างกายก็คือเจ้าโปรสต้าแกลนดินนั่นเองครับ .. โปรสต้าแกลนดินตัวนึงมีหน้าที่ทำให้เส้นเลือดบีบตัว อีกตัวนึงมีหน้าที่ทำให้เส้นเลือดขยายตัว ในภาวะปกติก็ทำงานกันอยู่ในภาวะสมดุล แต่ในคุณแม่ที่มีภาวะครรภ์เป็นพิษ ระบบรักษาสมดุลของโปรสต้าแกลนดินจะไม่เป็นปกติ ทำให้เส้นเลือดบีบเกร็งตัว เกิดภาวะความดันโลหิตสูง มีโปรตีนรั่วออกไปนอกเส้นเลือด มีการบวมน้ำ เกร็ดเลือดถูกทำลายมากขึ้น ... แล้วทำไมมันถึงไม่สมดุลล่ะ...นั่นนะสิ เรื่องนี้ก็ยังเป็นที่สงสัยยังหาคำตอบไม่ได้ในวงการแพทย์ ค้นคว้ากันมาหลายสิบปีก็ยังหาคำตอบไม่ได้สักที การรักษาในรายที่คุณแม่เป็นครรภ์เป็นพิษ หากอาการไม่รุนแรงก็ให้การรักษาแบบประคับประคอง ควบคุมความดัน พักผ่อนเต็มที่ แต่หากมีอาการรุนแรงก็ต้องยุติการตั้งครรภ์สถานเดียวครับ

 



พอถึงช่วงใกล้คลอด ถุงน้ำคร่ำบริเวณใกล้ปากมดลูกก็จะสร้างโปรสต้าแกลนดินออกมา มีผลทำให้ปากมดลูกที่ปกติแล้วจะแข็งเหมือนปลายจมูก นิ่มตัวลงจนนิ่มเหมือนติ่งหู พอปากมดลูกนิ่มตัวลง เจ้าโปรสต้าแกลนดินที่ว่านี้ก็จะทำให้มดลูกบีบตัวถี่ขึ้นด้วย ปากมดลูกที่นิ่มตัวลงรออยู่ก็จะเริ่มเปิดกว้างขยายตัวขึ้น เข้าสู่กระบวนการการคลอดในที่สุด ... ตอนจะท้องก็ต้องเจอโปรสต้าแกลนดินจากน้ำอสุจิ ตอนจะคลอดก็ต้องอาศัยโปรสต้าแกลนดินจากปากมดลูกหนีกันไม่พ้นจริงๆ

 

ด้วยความรู้ที่ว่านี้ปัจจุบันก็มีการผลิตยาเม็ดโปรสต้าแกลนดินสำหรับเหน็บช่องคลอด เอาไว้ใช้ชักนำกระตุ้นการคลอดในรายที่มีข้อบ่งชี้ ... เหน็บยานี้ก่อนนอน โปรสต้าแกลนดินในยานี้ก็จะทำให้ปากมดลูกนิ่มตัวลง ยืดขยายได้ง่ายขึ้น มดลูกบีบตัวถี่ขึ้น ตื่นเช้ามาวันรุ่งขึ้นก็เจ็บท้องคลอดเองในที่สุด..

 

สิ่งที่ใครๆก็นึกไม่ถึงก็คือ โปรสต้าแกลนดินที่ว่านี้พบมากในน้ำอสุจิ ... ในคุณแม่ที่ไม่มีปัญหาอะไรหมอก็ไม่ได้ห้ามไม่ให้มีเพศสัมพันธ์ ก็สามารถหลั่งน้ำอสุจิไว้ข้างในได้ตามใจปรารถนา ตอนช่วงท้องอ่อน ท้องกลางๆ มดลูกก็ยังไม่ไวต่อการบีบตัวมากนัก อสุจินิดๆหน่อยๆก็ยังไม่แรงพอที่จะกระตุ้นให้มดลูกบีบตัวได้ แต่ในรายที่มีภาวะแทรกซ้อน เจ็บครรภ์ก่อนกำหนด มดลูกบีบตัวบ่อย หมอก็จะสั่งห้ามไม่ให้มีเพศสัมพันธ์ หรือหากหักห้ามใจไม่ได้ก็พยายามอย่าหลั่งน้ำอสุจิไว้ข้างใน เพราะหากมดลูกเริ่มบีบตัวแล้วก็จะไวต่อการกระตุ้นด้วยโปรสต้าแกลนดินมากขึ้นด้วย

 

หากคุณแม่ท้องแก่มากๆแล้ว แอบยุ่งกันแล้วปล่อยน้ำไว้ข้างในปั๊บ ...วันรุ่งขึ้นก็จะเจ็บท้องคลอดขึ้นมาทันที อันนี้เป็นเคล็ดลับการเลือกวันคลอดเอาฤกษ์ แล้วอย่าให้คุณสามีไปโม้กับใครเชียวว่าที่เจ็บท้องคลอดนี่ก็เพราะโปรสต้าแกลนดินในอสุจิผมเอง...เก่งจริงๆ/.

 

ความคิดเห็น