ท้องลาย...ทำไงดี
แต่หน้าท้องแบนๆอย่างนี้ มันก็มีเนื้อที่ข้างในนิดเดียวเอง กินอะไรเข้าไปมากหน่อยก็แน่นจะแย่อยู่แล้ว ตอนท้องอ่อนๆยืนส่องกระจกดูตัวเองก็ยังแอบสงสัยเลยว่า ลูกจะเข้าไปอยู่ในท้องได้ยังไง จะไปนอนเบียดอยู่ตรงไหน …แต่สุดท้ายมันก็อยู่ของมันจนได้ หน้าท้องสวยๆของผู้หญิงเรามันก็มีความสามารถในการยืดขยาย ยืดแล้วยืดอีกจนสามารถอุ้มท้องไปได้จนครบคลอด ไม่ว่าลูกจะตัวใหญ่แค่ไหน ไม่ว่าจะเป็นแฝดสองแฝดสามก็ยังเบียดกันอยู่ข้างในได้สบายๆ...มหัศจรรย์จริงๆ
ในขณะที่ตั้งครรภ์ ฮอร์โมนของการตั้งครรภ์ก็จะทำให้เกิดการบวมน้ำในเนื้อเยื่อต่างๆ ผิวหนังก็จะมีการบวมน้ำ คอลลาเจนก็จะปริแตกได้ง่ายขึ้น ... เมื่อหน้าท้องยืดขยายอย่างรวดเร็ว ผิวหนังของเราก็จะตึงมากจนเกิดการฉีกขาดของเนื้อเยื่อ คอลลาเจนใต้ผิวหนังปริแยกจากกัน และเกิดขบวนการการซ่อมแซมรอยฉีกขาดนี้ตามมา เกิดเป็นรอยแผลเป็นเล็กๆในชั้นผิวหนัง ซึ่งก็คือรอยแตกลายที่เกิดจากการตั้งครรภ์นั่นเองครับ
โดยรวมแล้ว 90 เปอร์เซ็นต์ของคุณแม่ที่ตั้งครรภ์จะท้องลาย บริเวณที่ลายก็จะลายได้ตั้งแต่ใต้ราวนม หน้าท้อง ก้น สะโพก ต้นขา ลงไปจนถึงหัวเข่า แต่ส่วนที่ลายกันมากที่สุดก็คือ ด้านข้างๆของหน้าท้อง ใต้แนวสะดือลงไป
คุณแม่บางคนก็ลายมาก บางคนก็ลายน้อย คนผิวคล้ำ แบบผิวไทยๆจะลายง่ายกว่า เวลาลายก็จะลายเป็นสีเข้มดำๆเห็นชัด ส่วนคนผิวขาวหมวยจะลายยากกว่า แล้วถ้าลายก็จะลายเป็นสีเงินๆจางๆมองเห็นได้ยากกว่า
คุณแม่ที่ตัวใหญ่ สะโพกก็มักใหญ่ อุ้งเชิงกรานก็ใหญ่ มดลูกก็จะจมอยู่ในอุ้งเชิงกราน โผล่ขึ้นไปเหนืออุ้งเชิงกรานน้อยกว่า แถมหน้าท้องก็มีพื้นที่เยอะ ลูกตัวใหญ่ขนาดไหนก็ดูหน้าท้องไม่ค่อยขยายมาก คนตัวใหญ่เวลาคลอดลูกไปเรียบร้อย หน้าท้องก็เลยไม่ค่อยลาย ไม่ค่อยหย่อน ส่วนผู้หญิงตัวเล็ก อุ้งเชิงกรานก็เล็ก มดลูกก็จะลอยขึ้นไปเร็ว แถมโผล่ลอยไปในท้องไม่เท่าไหร่ก็ชนชายโครงซะแล้ว ขยายไปด้านบนต่อไม่ได้ ก็เลยต้องดันขยายออกมาทางด้านหน้าแทน หน้าท้องของคนตัวเล็กก็เลยต้องยืดขยายมากกว่าคนตัวใหญ่ ยิ่งถ้าแม่ตัวเล็ก แต่ลูกดันตัวใหญ่มาก หน้าท้องก็จะยิ่งถูกยืดมากไปกันใหญ่ คนตัวเล็กก็เลยมักจะท้องลายได้ง่ายกว่าคุณแม่ตัวใหญ่ๆ
หน้าท้องลายจะเกิดในช่วง 28-32 สัปดาห์
ก่อน 28 สัปดาห์จะไม่ค่อยลาย
เกิน 32 สัปดาห์ ถ้าไม่ลายก็มักจะไม่ลายอีก
หน้าท้องของว่าที่คุณแม่จะเริ่มลายเมื่ออายุครรภ์ได้ประมาณ 28 สัปดาห์ ก่อนหน้านี้ท้องก็ยังขยายไม่มากพอก็เลยมักไม่ค่อยลาย พอลายแล้วก็จะลายมากขึ้นไปเรื่อยๆ แต่หลังจาก 32 สัปดาห์ไปแล้ว หากไม่ลายก็มักจะไม่ลายอีก หากลายไปแล้วแค่ไหนก็จะไม่ค่อยลายมากขึ้นหลังจากนี้ ดังนั้นช่วง 28-32 สัปดาห์นี้แหละครับที่ต้องสนใจดูแลตัวเองให้มากเป็นพิเศษ การดูแลก็ง่ายๆ คือ ให้หน้าท้องยืดขยายน้อยที่สุด และ ให้ผิวหนังหน้าท้องชุ่มชื้นยืดหยุ่นได้ดีที่สุด
การดูแลไม่ไห้หน้าท้องขยายมากเกินความจำเป็น ก็ควรดูแลอาหารการกินให้น้ำหนักขึ้นตามเกณฑ์ ช่วงนี้ก็คุมน้ำหนักให้ขึ้นสัปดาห์ละครึ่งกิโลก็พอแล้ว ถ้าน้ำหนักขึ้นมาก...หน้าท้องก็จะขยายตัวมากตามไปด้วย ยิ่งขยายมากก็ยิ่งลายมาก
เวลานอนตะแคง น้ำหนักของมดลูกก็จะถ่วงดึงรั้งให้หนังหน้าท้องด้านตรงข้ามยืดตึงมากผิดปกติ เมื่อมีการดึงรั้งตัวมากๆเข้า ก็ทำให้เกิดการปริแตกของผิวหนัง ท้องลายก็เลยมักจะลายทางด้านข้างๆ ดังนั้นเวลานอนตะแคงคุณแม่ก็ควรหาหมอนบางๆ หรือ ผ้าขนหนูมาพับหนุนมดลูกไว้ ไม่ให้น้ำหนักมดลูกดึงรั้งผิวหนังหน้าท้องมากเกินไป
อีกเรื่องที่ต้องดูแลเป็นพิเศษก็คือ การดูแลผิวพรรณให้ชุ่มชื้นยืดหยุ่นให้ดีที่สุด ก็ควรดื่มน้ำมากๆพยายามหลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อน เพราะว่ามันจะทำให้ผิวแห้งมาก ผิวแห้งมากก็จะแตกง่าย หลังอาบน้ำก็ควรทาครีมบำรุงผิวทุกครั้ง หรือเวลาที่รู้สึกว่าผิวแห้งมากๆก็ทาครีมบ่อยๆ คุณแม่บางคนหลังทาครีมไปแล้วอาจมีอาการแพ้ หน้าท้องแดงไปหมดก็ควรหยุดทาทันที หากอาการแดง อาการแพ้ไม่ดีขึ้นก็ควรไปพบแพทย์ผิวหนัง ปกติครีมยิ่งหอมก็ยิ่งแพ้ง่าย ครีมไม่มีกลิ่นเลยก็ยิ่งแพ้ยาก เพราะเรามักแพ้ส่วนที่เป็นน้ำหอมในครีมนั่นเองครับ
หลังทาครีมแล้ว ก็รอให้แห้งสักครู่แล้วค่อยสวมเสื้อผ้า คุณแม่บางคนทาครีมเสร็จปั๊บก็รู้สึกว่ามันเหนอะหนะไม่สบายตัว ก็เลยโรยแป้งต่ออีกที แป้งมีหน้าที่ดูดซับความมันของผิว ก็เลยดูดซับครีมที่เพิ่งทาเมื่อกี๊ออกจากผิวหมด ก็เลยเหมือนกับไม่ได้ทาอะไรเลย เสียของเปล่าๆ ...บางคนไม่ได้ทาครีมแล้วแถมยังทาแป้งล้วนๆอีกต่างหาก ยิ่งทาแป้งก็เลยยิ่งทำให้ผิวแห้งมากไปกันใหญ่ ก็ยิ่งทำให้รู้สึกคันหน้าท้องมากขึ้น ท้องลายมากขึ้น จำไว้เลยนะครับว่าแป้งเป็นศัตรูตัวสำคัญของหน้าท้องยามตั้งครรภ์เลยทีเดียว
ศัตรูที่สำคัญของหน้าท้องอีกอย่างก็คือ “เล็บ” ตอนท้อง ช่วงที่หน้าท้องขยายมากๆ คุณแม่จะรู้สึกคันยุบยิบๆตามผิวหนังหน้าท้อง เรียกว่ายิ่งเกาก็ยิ่งมัน เกายังไงมันก็ไม่หายคัน ยิ่งเกาหน้าท้องก็ยิ่งเกิดร่องรอยมากมาย รอยถลอกของผิวหนังก็จะทำให้เกิดการปริแยกของผิวหนังง่ายขึ้น ก็ทำให้เกิดท้องลายตามมาได้ง่ายด้วยเช่นกันก็
หลังคลอดท้องลายก็จะจางลง แต่ก็มักจะไม่จางหายไปหมด เพราะท้องลายมันเป็นการปริแตกในเนื้อชั้นลึก ไม่ได้เป็นแค่ลายที่สีของผิว ขัดถูยังไงมันก็ไม่ออก แต่การทาครีมบำรุงผิวอย่างต่อเนื่องก็ช่วยให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้นซ่อมแซมตัวเองได้ดีขึ้น
ดังนั้นหากคุณแม่ไม่อยากท้องลายก็ควรดูแลตัวเองเป็นอย่างดีตั้งแต่ในช่วงที่ตั้งครรภ์ ซึ่งหากท้องลายไปมากแล้วมารักษาทีหลังจะยากกว่ามาก แล้วร่องรอยก็มักจะจางหายไปไม่หมด ...
“จะให้ท้องลายหายหมดก็ต้องไปเกิดใหม่สถานเดียว”
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น