คุณพ่อในห้องคลอด

 

 

เรื่องของลูกในท้อง ..มันก็ไม่ใช่เป็นเรื่องของคุณแม่แต่เพียงฝ่ายเดียวนะครับ  ยิ่งตอนคลอดลูกที่ใครๆก็นึกว่าเป็นหน้าที่ของคุณแม่แต่เพียงคนเดียว แต่ที่จริงแล้ว การคลอดลูก เป็นภาระหน้าที่ของทั้งคุณพ่อและคุณแม่ทั้งสองคน  แต่มันบังเอิญที่มดลูกมันดันไปติดอยู่ในท้องของคุณแม่ ก็เลยดูเหมือนว่าเรื่องคลอดลูกเป็นเรื่องของแม่แต่เพียงฝ่ายเดียว ..พ่อไม่เกี่ยว....

ตอนทำเข้าไปก็ช่วยกันทำ ... ตอนเบ่งออกมา  ก็ต้องช่วยกันออกด้วยเหมือนกัน...จริงมั๊ย! 

 

ในระหว่างการตั้งครรภ์ก็เป็นหน้าที่ของคุณแม่ที่ต้องดูแลตัวเอง ดูแลการตั้งครรภ์ ดูแลลูกน้อยในครรภ์ ไปตรวจฝากครรภ์อย่างสม่ำเสมอ พยายามปฏิบัติตัวให้ถูกต้องตามที่คุณหมอแนะนำ พยายามทำในสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกในครรภ์ และก็เป็นหน้าที่ของคุณพ่อด้วยที่ต้องดูแลทั้งแม่ทั้งลูก คอยช่วยเหลืองานบ้านงานเรือน รวมทั้งต้องให้ความรักให้กำลังใจอยู่ตลอด ... คนท้องน่ะต้องการความรัก ความเอาใจใส่ อีกทั้งขี้อ้อน ขี้ใจน้อย ทั้งแสนงอนเอาใจยากจะตายไป แต่ก็ต้องยอมๆกันหน่อย คนท้องทำอะไรถูกทุกอย่าง ขึ้นรถไฟฟ้า รถเมล์ยังต้องลุกให้คนท้องนั่งก่อนเลย! 

 



การคลอดลูก ...  มันก็เป็นประสบการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ ยิ่งคุณแม่ท้องแรกก็จะเป็นประสบการณ์ครั้งแรกในชีวิต แรก ๆมันก็รู้สึกตื่นเต้นดีอยู่หรอก แต่พอเริ่มเจ็บท้องถี่ขึ้นความเจ็บปวดก็ทำให้ความตื่นเต้นหายไปหมดเกลี้ยงเลย คุณแม่หลายๆคนก็อาจมีความกลัว ความไม่มั่นใจ แวบแทรกเข้ามาได้เหมือนกัน ช่วงเวลาที่ต้องนอนเจ็บท้องอยู่คนเดียว หันไปทางไหนก็เจอแต่คนทีไม่เคยรู้จักมาก่อนทั้งนั้น พยาบาลที่คอยดูแลอยู่ก็เพิ่งเจอกันเมื่อตะกี้นี้เอง จะร้องก็เกรงใจเขา มองไปมองมาก็ไม่มีใครที่เราสนิทที่จะคอยดูแลให้กำลังใจเลย ..ตอนนี้แหละที่อยากจะบอกว่า...... “คิดถึงสามีที่สุดเลย” ..... คิดถึงมากกว่าตอนที่จีบกันใหม่ๆเสียอีก ยามเจ็บยามป่วยยามไข้ ใครๆก็ต้องคิดถึงสามีตัวเอง คิดถึงคนที่รัก คงไม่ไปนึกถึงหนุ่มข้างบ้านเป็นแน่ ถ้าคุณสามีมาอยู่ด้วยก็คงมีคนคอยดูแลให้กำลังใจ คอยปลอบใจยามเจ็บปวด คอยเช็ดหน้าเช็ดตาให้ยามเหนื่อย คอยเชียร์เบ่งเมื่อยามคลอด สำหรับคุณแม่ แม้จะเจ็บปวดเหนื่อยเมื่อยล้า หากมีสามีมาคอยให้กำลังใจ....ยังไงก็ต้อง สู้สู้ ทำหน้าที่ของแม่ให้สำเร็จให้ได้  

 

ที่สำคัญสามีเขาจะได้รู้เอาไว้ด้วยว่าผู้หญิงอย่าง มีลูกสักคนมันลำบากแค่ไหน ไหนจะต้องเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้ากับการตั้งครรภ์ แล้วยังต้องมาทนทรมานกับการคลอดอีก ให้มันรู้กันบ้างว่ามันเจ็บ มันทรมานขนาดไหน ...คุณสามีจะได้เห็นอกเห็นใจ.... หลังคลอดอยากได้อะไรก็ขอได้เลย มารยาหญิงมีเท่าไหร่ก็ต้องขุดมาใช้ให้หมด 

 

พอถึงตอนคลอด คุณแม่ก็ต้องออกแรงเบ่งกันหน้าดำหน้าแดง สุดท้ายลูกก็คลอดออกมาจนได้ นาทีสำคัญที่คุณแม่ได้อุ้มได้ชื่นชมกับเจ้าตัวน้อยแสนน่ารัก เป็นช่วงที่อยากบอกใครสักคนว่าเราทำได้ นี่ไงลูกของเรา ตอนนี้ถ้าคุณพ่อไม่ได้อยู่ด้วยมันก็เหมือนขาดอะไรไปบางอย่าง ความรู้สึกดีใจ ภูมิใจมันไม่สมบูรณ์เหมือนกับได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันครบหรอกครับ 

 


ดังนั้นการคลอดก็ไม่ได้เป็นแค่ภาระหน้าที่ของคุณแม่แต่เพียงฝ่ายเดียว คุณพ่อก็เป็นคนสำคัญ สำคัญมากๆ มากกว่าใครทุกคนที่อยู่ในห้องคลอดตอนนั้นทีเดียว (..ยกเว้นหมอทำคลอดนะครับ) ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ ถ้ามีโอกาสคุณพ่อก็ควรทำหน้าที่ของคุณพ่อให้สมบูรณ์ในวันสำคัญวันนี้ ...ในชีวิตนี้มีวันสำคัญอย่างนี้ไม่กี่ครั้งเท่านั้นเอง 

 

แต่ก่อนอื่นก็ต้องบอกกันไว้ก่อนว่า ไม่ใช่ทุกโรงพยาบาลนะครับที่คุณพ่อจะมีโอกาสเข้าไปอยู่ด้วยในระหว่างที่คุณแม่กำลังคลอด ... ปกติแล้วถ้าเป็นโรงพยาบาลของรัฐก็จะไม่สามารถที่จะให้คุณพ่อเข้าไปอยู่ด้วยได้  ไม่ใช่ว่าไม่อยากจะให้เข้าไปนะครับ แต่ก็เพราะโรงพยาบาลรัฐบาลจะมีคลอดวันนึงเป็นสิบสิบคน หากให้คุณพ่อเข้าไปอยู่ด้วยก็คงเดินกันยั๊วเยี้ยเหมือนสวนจตุจักร ดูเมียตัวเองคลอดเสร็จ ก็ไปเชียร์เบ่งเมียคนอื่นต่อ มันคงวุ่นวายสนุกกันน่าดู นอกจากนั้นยังต้องนึกถึงความปลอดภัยด้วย หากมีคนสวมรอยเข้ามาแล้วขโมยเด็กออกไป ก็ต้องคิดเผื่อเรื่องนี้เอาไว้ด้วย ดังนั้นหากเป็นโรงพยาบาลของรัฐก็อาจต้องช่วยเหลือตัวเอง พกเอากำลังใจจากสามีเข้าไปในห้องคลอดเยอะๆ ให้กำลังใจตัวเองให้มากๆ แล้วเดี๋ยวนี้พยาบาลห้องคลอดก็สาวๆหน้าตาน่ารักกันทั้งนั้น ที่ดุๆก็อายุเยอะดุไม่ไหวกันหมดแล้ว 

 

สำหรับในโรงพยาบาลเอกชน ก็มีโรงพยาบาลหลายๆแห่งที่เปิดโอกาสให้คุณพ่อสามารถเข้าไปอยู่เป็นเพื่อนคุณแม่ในห้องคลอดได้ ห้องคลอดก็มักจะแยกเป็นห้องๆ ห้องใครห้องมันเป็นสัดส่วน ถ้าโรงพยาบาลดีๆหน่อยห้องก็จะเก็บเสียง เวลาร้องเสียงจะได้ไม่ไปรบกวนคนอื่นเขา แต่อย่างไรก็ตามคุณพ่อ คุณแม่ก็ต้องสอบถามกับทางโรงพยาบาลก่อนว่าอนุญาติให้คุณพ่อเข้าไปได้หรือเปล่า อย่าทึกทักนึกเอาเอง แต่ละแห่งก็มีนโยบายไม่เหมือนกัน บางแห่งก็ให้คุณพ่ออยู่ได้ตลอด อยากจะถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอก็ถ่ายได้ตามสบาย แต่บางแห่งก็ให้เข้าไปให้กำลังใจอย่างเดียว ไม่ให้ถ่ายรูปดูวุ่นวาย บางแห่งก็ใจร้ายหน่อยไม่ให้เข้าไปวุ่นวายเลย ให้รอให้กำลังใจอยู่หน้าห้องก็พอแล้ว นี่ถ้าเราไม่สอบถามให้เข้าใจกันก่อน พอถึงเวลาคลอดแล้วเกิดไม่ให้เข้าขึ้นมา เดี๋ยวจะผิดหวังเสียความตั้งใจหมด บางทีเขาก็ไม่มีนโยบายให้สามีเข้าไปอยู่แล้ว แต่เรามัวนึกเอาเองว่าเข้าได้ เลยเข้าใจไม่ตรงกัน บางทีท้องที่แล้วเข้าได้ แต่ท้องนี้นโยบายก็อาจเปลี่ยนไปกลายเป็นเข้าไม่ได้ก็ได้ ...ยังไงก็แล้วแต่ ถ้าทางโรงพยาบาลอนุญาติให้เข้าได้ คุณพ่อก็ห้ามพลาดโอกาสดีดีเช่นนี้เป็นอันขาด โอกาสแบบนี้..ชีวิตนี้มีไม่กี่ครั้ง ถ้าพลาดก็คงเสียดายแย่

  

ก่อนอื่นก็ต้องมีการเตรียมตัวกันก่อน อย่างน้อยทั้งคุณพ่อคุณแม่ก็ควรมีความรู้พื้นฐานของการคลอดสักหน่อยก็ยังดี พยายามหาหนังสืออ่าน จะได้เข้าใจว่าสิ่งที่เราจะไปเจอกันนั้นขั้นตอนเป็นอย่างไร ...

ผมช่วยสรุปสั้นๆเข้าใจง่ายๆให้ก่อนก็แล้วกันนะ ...

เริ่มแรกเมื่อมีการเจ็บท้องคลอด มดลูกก็ต้องทำหน้าที่ของมัน โดยจะมีการบีบตัวเป็นระยะๆ การบีบแต่ละครั้งก็จะส่งแรงดันลงไปข้างล่าง ทำให้หัวของลูกไปกดถ่างขยายปากมดลูกอีกที ปากมดลูกก็จะค่อยๆขยายทีละนิดๆ ปกติปากมดลูกก็จะขยายชั่วโมงละ 1 เซนติเมตรในท้องแรก หรือ 1 เซนต์ครึ่งในท้องหลังๆ รวมๆแล้วปากมดลูกก็จะต้องเปิดไปจนถึง 10 เซนติเมตรถึงจะคลอดได้ ดูๆแล้วมันก็น่าจะง่ายนะ แต่การบีบตัวของมดลูกแต่ละครั้ง มันก็จะมีความเจ็บปวดร่วมด้วย ... ยิ่งใกล้คลอดมากก็ยิ่งถี่มาก ยิ่งปวดมาก ช่วงนี้เมื่อคุณพ่ออยู่กับคุณแม่ในห้องคลอดก็จะได้คอยให้กำลังใจคุณแม่ไงครับ นี่นะมันเดี๋ยวบีบเดี๋ยวหาย ปากมดลูกก็จะขยาย เดี๋ยวลูกก็จะได้คลอดออกมาแล้ว มันจะได้มีกำลังใจไปสู้กับความเจ็บปวดได้ บางทีก็มีอาการปวดร้าวไปลงหลัง คุณแม่ก็อาจนอนตะแคงให้คุณพ่อคอยกดคอยนวดให้บรรเทาหายปวด คุณแม่จะอ้อนยังไง คุณพ่อก็ต้องคอยดูแลให้กำลังใจ แล้วก็ต้องอดทนกันมากๆนะครับ คุณแม่บางรายก็เจ็บไป ด่าสามีไป บางทีก็จิก บางทีก็หยิก กว่าจะคลอด หูก็ชา แขนก็ช้ำไปหมดเลยทีเดียว 

 


พอถึงตอนที่ปากมดลูกเปิดหมดคุณพยาบาลก็จะย้ายคุณแม่เข้าห้องคลอด ตอนนี้คุณพ่อก็ควรรออยู่ข้างนอกก่อน ให้เจ้าหน้าที่ ให้พยาบาลได้ทำงานของเขา ช่วงนี้คุณแม่ก็จะต้องเปลี่ยนท่านอนจากนอนราบเป็นท่าขึ้นขาหยั่ง พยาบาลจะฟอกทำความสะอาดปากทางคลอด จนปูผ้าคลุมสะอาดปราศจากเชื้อให้เรียบร้อย จัดเตรียมวางเครื่องมือต่างๆให้เรียบร้อย คุณหมอเข้าประจำที่ หมอ..พร้อม พยาบาล..พร้อม ผู้ช่วย..พร้อม คุณแม่..พร้อม เมื่อเข้าที่ทุกคนแล้ว ถึงจะให้ตามสามีเข้ามาได้ 

 

พอสามีเข้ามาก็จะเห็นคุณภรรยาสุดที่รักนอนท่าน่าหวาดเสียวอ้าขาอล่างฉ่าง อยู่ที่บ้านก็ยังไม่เคยเห็นนอนท่านี้ให้เห็นเลย ถึงตอนนี้แล้วก็ไม่ต้องไปหวงอะไรกันนักกันหนาหรอกนะครับ ของอย่างนี้ทั้งหมอทั้งพยาบาลดูกันทุกวันจะเบื่อจะแย่อยู่แล้ว เกิดเป็นหมอสูติมายี่สิบปีก็ต้องทำงานอยู่กับช่องตรงนี้ทั้งวันทั้งคืน จนหมออื่นแซวว่าหน้าชักจะเหมือนตรงนี้เข้าทุกวันแล้ว ...ภายในห้องคลอด คุณหมอจะนั่งอยู่ตรงกลางหว่างขาพอดี ส่วนคุณพยาบาลก็มักจะอยู่ทางด้านซ้ายของคุณแม่ คอยจับดูว่ามดลูกแข็งหรือยัง จะให้เบ่งตอนไหน บางทีก็ต้องช่วยออกแรงดันก้นลูกด้วยอีกแรง ดังนั้นก็เลยเหลือที่ให้คุณพ่อที่ด้านขวาตรงหัวเตียง จะว่าไปแล้วตรงนี้เป็นตำแหน่งที่ดีที่สุดเลยนะครับ คุณพ่อจะได้คอยช่วยให้กำลังใจ คอยเช็ดหน้าเช็ดตา คอยช่วยกันเชียร์เบ่ง เวลาคุณแม่เจ็บหลายๆคนก็มักจะขบ จิก หยิก ข่วน สามีบาดเจ็บมาแล้วหลายคน ยังไงก็ไปชำระบัญชีกันเอาเองทีหลังก็แล้วกัน...เรื่องนี้หมอไม่เกี่ยวนะ บอกก่อน 

 

ช่วงเชียร์เบ่ง คุณหมอ คุณพยาบาลก็จะออกเสียงให้คุณแม่เบ่งตาม คุณแม่ต้องหายใจเข้ายาวๆเต็มที่ กลั้นลมหายใจไว้แล้วเบ่งลงก้นยาวๆ ยาวๆจนหมดแรงบีบตัวของมดลูก คุณพ่อก็ต้องคอยช่วยควบคุมให้คุณแม่ให้เบ่งให้ได้ ไม่ใช่เอาแต่ยืนบื้อเก้ๆกังๆเป็นท่อนไม้ พอถึงตอนคลอด ช่วงนี้ก็จะมีเลือดค่อนข้างเยอะ ก็คงต้องใจแข็งกันหน่อยนะ ไม่ใช่พอคลอดปั๊บ คุณพ่อเป็นลมปุ๊บพับไปอยู่ใต้เตียง ก็เจอไม่ใช่น้อยนะที่คุณพ่อเห็นของอย่างนี้แล้วก็หน้าซีดเผือก ตาค้างแล้วก็ล้มทั้งยืนเป็นแท่ง ต้องให้พยาบาลลากออกไปไว้ข้างนอก เพราะยังไงก็ตามตอนนี้ทั้งหมอทั้งพยาบาลต่างก็ง่วนอยู่กับคุณแม่กับคุณลูกที่เพิ่งออกมา ก็เลยจำต้องปล่อยคุณพ่อให้นอนเล่นไปพลางๆก่อน ... 

 

ช่วงเวลาคลอดก็เป็นช่วงที่คุณหมอต้องใช้สมาธิในการทำงานบ้างเหมือนกัน คุณพ่อบางคนอาจจะรู้มาก คอยสอนหมออยู่ตลอด ..ทำอย่างนี้สิ ไม่ทำอย่างนี้เหรอครับ ....ถ้ารู้เยอะก็ทำเป็นแกล้งไม่รู้ดีกว่า ให้คุณหมอเขาทำงานสบายๆ ไปจ้องเขามากเดี๋ยวทำอะไรไม่ถูก หากคุณหมอเขาหมั่นใส้ขึ้นมา เย็บปิดช่องไปซะเลย แล้วคุณพ่อจะหนาว... 

 

แล้วถ้าหากว่าคุณหมอ หรือทางโรงพยาบาลอนุญาติให้ถ่ายรูปได้ คุณพ่อก็อย่าลืมเอากล้องถ่ายรูปติดตัวมาโรงพยาบาลด้วย แล้วอย่าลืมตรวจตราเช็คสภาพให้เรียบร้อย เพราะคลอดลูกมากี่รายก็มักมีปัญหาเรื่องกล้องกันทุกที บางทีก็แบตหมด บางทีถ่ายได้สองรูป ความจำก็เต็มซะแล้ว วันอย่างนี้มีไม่กี่ครั้งในชีวิต ถ่ายสัก200รูปก็ไม่มีใครว่า แต่คนอื่นอาจจะหาว่าบ้าเห่อก็ได้นะ ตอนถ่ายรูปในห้องคลอดก็ต้องเลือกมุมกล้องให้ดีด้วย มุมที่ดีก็ควรถ่ายจากด้านบนหัวเตียงลงมา อย่าถ่ายจากด้านล่างย้อนขึ้นมาเป็นอันขาด เพราะคุณแม่กำลังนอนอ้าขาอล่างฉ่าง เห็นทุกอย่างไม่มีปิดไม่มีแง้ม ถ่ายเข้าไปเดี๋ยวรูปจะเข้าข่าย XXX เกิดรูปหลุด กระจายออกไป เดี๋ยวจะกลายเป็นดาราดัง 

 



ตอนคลอด คุณพ่อจะถูกกำหนดพื้นที่ให้ยืนที่บริเวณหัวเตียงเท่านั้น..นั่นก็เป็นความหวังดีนะครับ หากออกมานอกพื้นที่ หรือแอบชะโงกดูเจ้าตัวน้อยตอนโผล่ออกมา ดีไม่ดีก็อาจโดน “คำสาปมะเขือเผา” ซึ่งคำสาปที่ว่านี้ก็เป็นคำสาปที่ถอนได้ยากมากๆซะด้วย ...ปกติแล้วผู้ชายก็มักจะเห็นอวัยวะเพศของผู้หญิงเป็นสิ่งดึงดูดใจ เป็นสิ่งยั่วยุทางกามารมณ์ เห็นแล้วอารมณ์มันกระเจิดกระเจิงทุกที...จนมาวันนึง วันที่เมียคลอดนี้แหละที่เห็นของสำคัญของเมียรัก มีแผลเหวะหวะ มีเลือดไหลออกมาเต็มไปหมด แถมยังมีสายสะดือห้อยออกมาร่องแร่งอีกด้วย ภาพที่เห็นดูน่ากลัว ติดตา ความรู้สึกยั่วยวนมันหายไปหมด ..จนเวลาผ่านไปนานแล้ว เวลาจู๋จี๋มีอะไรกัน บางทีภาพเหล่านี้ก็อาจแวบเข้ามารบกวนจิตใจ เห็นแล้วก็อดหดหู่ดูแล้วน่าสงสารไม่ได้ อาวุธสำคัญของผู้ชายที่กำลังแข็งแรง อยู่ๆก้หัวหดคอพับคออ่อนไปได้เฉยเลย ถ้าคุณพ่อคนไหนคิดว่าแน่ก็ลองดูได้ แต่ถ้าคุณพ่อคนไหนขวัญอ่อนก็คงต้องกลัวคำสาปเอาไว้ก่อนนะ 

 

แล้วหมอสูติอย่างเราจะเป็นยังไงล่ะเนี่ย ทั้งดู ทั้งจับของอย่างนี้ทุกวัน ถ้าเป็นตามคำสาปนี้ สงสัยนกเขาของหมอสูติทั้งบ้านทั้งเมืองคงคอพับคออ่อนเฉากันหมดแน่ ...แต่กลับกลายเป็นว่าหมอสูติเป็นหมอที่มีเมียน้อยมากที่สุดในหมอทุกสาขา ไม่รู้จะภูมิใจดีหรือเปล่า!


ความคิดเห็น