หลังคลอดแล้วหน่ายเซ็กส์

 



หลังคลอดแล้วหน่ายเซ็กส์

คราวที่แล้วเล่าสู่กันฟังเรื่องผู้ชายหน่ายเซ็กส์ ก็เลยโดนผู้ชายประท้วงกันยกใหญ่  บอกว่าผู้หญิงนี่แหละที่หน่ายเซ็กส์มากกว่าผู้ชายเสียอีก ยิ่งมีลูกก็ยิ่งเปลี่ยนไปเยอะ ผู้หญิงหลายๆคนก็ยอมรับเหมือนกันนะครับว่าหลังจากมีลูกแล้ว ความรู้สึกในเรื่องอย่างว่าไม่รู้มันหายไปไหนหมด ไม่สดใสซาบซ่าเหมือนเมื่อก่อนเลย บางรายก็มาโทษหมออีกต่างหากว่าตอนคลอดไปแอบตัดเอาต่อมอะไรผิดออกไปหรือเปล่า ถึงได้คลอดแล้วไม่มีอารมณ์ความรู้สึกอะไรเหลือเลย

จากที่ได้อ่านปัญหาที่คุณแม่บ้านหลายๆคนที่เขียนถามกันเข้ามา ก็พบว่าปัญหาเรื่องต่อมความรู้สึกทางเพศหลุดหายไปตอนคลอดลูกก็เป็นเรื่องที่เป็นกันเยอะมาก ส่วนผู้ชายไม่ต้องพูดถึง อดมาตั้งนาน หลังคลอดหมอก็ให้งดอีกตั้งเดือนครึ่ง ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ ยิ่งอยากมีเพศสัมพันธ์ไปกันใหญ่ นี่ถ้าไม่ห้ามก็คงไม่อยากเท่าไหร่หรอกครับ  ตอนหลังคลอดก็เลยอาจมีปัญหาความไม่สมดุลของความต้องการทางเพศได้ คุณสามีก็อยากจะแย่อยู่แล้ว แต่ฝ่ายคุณภรรยาก็ไม่มีอารมณ์ความรู้สึกเลย  มันก็เลยไม่แฮปปี้กันทั้งสองฝ่าย

รามาศึกษาเรียนรู้ผู้หญิงกันก่อนดีกว่าว่า เธอทำต่อมความรู้สึกทางเพศหายไปไหน?

สาเหตุที่ทำให้คุณผู้หญิงไม่มีความรู้สึกทางเพศหลังจากคลอดลูกไปแล้วก็มีสาเหตุรวมแล้วก็มีสาเหตุได้มากมาย ทั้งทางด้านร่ายกาย จิตใจและอารมณ์ ความสับสนในบทบาทของการเป็นภรรยากับการเป็นแม่ รวมทั้งความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนไประหว่างสามีภรรยา

เรื่องทางด้านร่ายกายเป็นเรื่องที่เห็นได้ชัดที่สุด หลังคลอดอะไรต่ออะไรมันก็เปลี่ยนไป จากหุ่นเซ็กซี่เห็นแล้วชวนวาบหวาม ก็กลายเป็นตัวกลมพุงห้อยตัวใหญ่เทอะทะ หน้าท้องก็ลายอย่างกับแตงโมจินตหรา  สมัยก่อนลองยืนเปลือยกายดูตัวเองในกระจกก็ยังอดรักตัวเองไม่ได้ แต่ตอนหลังคลอดเวลาเดินผ่านกระจกก็ต้องปิดตาเอาไว้ มันทนดูตัวเองไม่ได้  สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ก็ทำให้เกิดความไม่มั่นใจในตัวเอง ขนาดตัวเองยังทนดูเองไม่ได้ นับประสาอะไรจะไปเปลือยกายให้สามีดู เดี๋ยวจะตกใจหดไปหมด แทนที่จะมีอารมณ์

แต่ก็ไม่มีอะไรมันเลยร้ายไปซะหมดทุกอย่างหรอกครับ ยังมีดีที่ชวนตื่นเต้นให้คุณสามีอยู่บ้าง ก่อนหน้านี้บางคนก็มีเต้านมโตเท่าไข่ดาว  แต่ตอนหลังคลอดไม่รู้มันมาจากไหนเยอะแยะ ขนาดมรกตยังชิดซ้ายไปเลย  คุณสามีเห็นแล้วก็อดตื่นเต้นไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องไปแย่งลูกกินนมจนได้  แต่เวลามันโตขนาดนั้น เต้านมมันก็จะคัดเจ็บไปด้วย เดินแกว่งไปแกว่งมายังเจ็บเลย พอมาโดนฟัดก็ยิ่งรู้สึกเจ็บเข้าไปใหญ่ก็เลยรู้สึกไม่ค่อยจะแฮปปี้นัก

อย่างที่ว่าหลังคลอดอะไรมันก็เปลี่ยนแปลงไป คนที่คลอดเองช่องคลอดก็ต้องเสียหายไปจากการคลอดบ้าง ถึงแม้จะรีแพร์มาอย่างดีมันก็ไม่ยืดหยุ่นเหมือนของใหม่ หรือถึงแม้ว่าจะบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานโดยการขมิบก้นทุกวัน 30 ครั้งตามหมอสั่ง ขยันหน่อยแถมเป็น 60 ครั้งเลยก็ได้ แต่กว่าอะไรมันจะเข้าที่เข้าทางก็อีกตั้ง 3 เดือน ดังนั้นตอนมีเพศสัมพันธ์กันใหม่ๆก็เลยอาจรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจก็ได้ กลัวว่ามันจะไม่เหมือนเดิม กลัวมันจะหย่อนหลวมโครกครากแล้วสามีจะไม่ชอบ คิดโน่นคิดนี่เรื่อยเปื่อยก็เลยทำให้ไม่รู้สึกดีดีกับมัน  แล้วตอนหลังคลอด 6 สัปดาห์ที่หมอห้ามไว้โดยมากแผลมันก็หายดีหมดแล้ว แต่บางทีก็ยังมีเม็ดปมหลงเหลือยังละลายไม่หมดอยู่บ้าง  เวลามีเพศสัมพันธ์มีการเสียดสีก็อาจทำให้รู้สึกเจ็บก็อาจเป็นเหตุทำให้กลัวกังวลว่าแผลมันจะอักเสบ  มีลูกแล้วเลยพาลไม่อยากจะมีเพศสัมพันธ์อีกเลยก็ได้

คลอดลูกไปแล้วโครงสร้างที่ยึดมดลูกภายในท้องน้อยก็ยืดหย่อนกว่าตอนที่ยังไม่มีลูก มดลูกก็อาจโยกเยกคลอนแคลนได้ง่าย ยิ่งในรายที่คลอดโดยการผ่าตัดคลอดก็อาจมีอาการเจ็บภายในท้องน้อยได้มากกว่านิดหน่อย  กว่าจะกลับมาเข้าที่ไม่มีอาการเจ็บแล้วก็คงต้องให้เวลากันหน่อย

การคลอดเป็นเหตุการณ์ครั้งสำคัญของชีวิต ซึ่งเหตุการณ์นี้ก็มีผลต่อจิตใจของผู้หญิงคนนึงได้มากเหมือนกัน การคลอดเป็นเหตุการณ์ที่เจ็บปวด หากเจ็บปวดทรมาณจากการคลอดก็มักจะสร้างรอยประทับใจที่ไม่ดีไว้ในส่วนลึกของความ รู้สึก  ทำให้รู้สึกว่าการมีเพศสัมพันธ์แล้วตั้งครรภ์เป็นสาเหตุของความเจ็บปวดที่ว่านี้  ก็เลยมีความรู้สึกที่ไม่ดีต่อการมีเพศสัมพันธ์ มีลูกแล้วต่อมความรู้สึกทางเพศก็เลยหดหายไป

เวลาคลอดลูกก็ไม่ได้แอบคลอดไม่มีใครเห็น ของลับของสงวนที่เคยมีแต่สามีใช้สามีเห็นคนเดียวก็มีอันเป็นต้องเปิดเผยต่อที่สาธารณะ จะปิดจะบังยังไงก็ไม่ได้ ทั้งหมอ พยาบาล ผู้ช่วยหมอ ผู้ช่วยพยาบาลก็เดินช่วยกันในห้องคลอดก็ตั้งหลายคน ของลับก็เลยกลายเป็นของไม่ลับไปซะแล้ว ความรู้สึกทางเพศที่ได้เปลือยกายต่อหน้าสามีก็หดหายไปด้วย ...นี่ถ้าให้สามีทำคลอดกันเองได้ก็คงจะดีนะ ของลับจะได้ยังคงความลับอยู่ได้เหมือนเดิม

ผู้หญิงบางคนพอคลอดลูกแล้วก็เลยมีทัศนะคติไม่ดีกับผู้ชาย เกิดเป็นผู้หญิงไหนจะต้องยุ่งยากกับการมีประจำเดือน ต้องมาเหน็ดเหนื่อยกับการแบกครรภ์ ต้องเจ็บปวดเมื่อคลอด หลังคลอดก็ต้องมาเลี้ยงลูกอีก ยิ่งถ้าสามีเอาแต่นอนไม่เคยมาช่วยเลี้ยงเลยก็ยิ่งทำให้ภรรยารู้สึกแบบนี้มากขึ้นไปใหญ่  บางครั้งผู้หญิงเราก็มีสิทธิคิดน้อยอกน้อยใจได้ว่า ทีอยากจะมีเพศสัมพันธ์ก็ยังทำได้ไม่รู้จักเหน็ดรู้จักเหนื่อย แต่พอมีลูกออกมาแล้วไม่เห็นจะช่วยเลี้ยงเลย ..ความรู้สึกอย่างนี้แหละที่เป็นตัวอันตรายที่ทำให้ต่อมความรู้สึกทางเพศมันหดหายไปเรื่อยๆ

สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ทำให้ความรู้สึกทางเพศหายไปก็คือ ความสับสนในบทบาทของตัวเอง ก่อนหน้านี้เคยแค่มีบทบาทเป็นเมียเพียงอย่างเดียว มันก็ไม่ยาก ไม่ต้องมีใครสอนก็ทำกันได้ แต่พอมีลูกสันชาตญาณของความเป็นแม่มันมีมากกว่า  บทบาทของแม่ก็เลยบดบังบทบาทของเมียเสียหมด  แล้วเป็นแม่ก็ไม่ใช่เป็นกันได้ง่ายๆ เลี้ยงลูกอ่อนเป็นงานที่แสนเหน็ดเหนื่อย บางทีไม่ได้นอนทั้งคืนก็มี ความเหนื่อยเมื่อยล้าจากการเลี้ยงลูกก็อาจทำให้ไม่มีอารมณ์โรแมนติคในเรื่องอย่างว่าเลย พอหัวถึงหมอนก็หลับซะแล้ว เอาอะไรมาสะกิดก็ไม่มีอารมณ์

แล้วการที่มีลูกมานอนในห้องอีกคนมันก็ทำให้ฟีลลิ่ง ความรู้สึกไม่โรแมนติคอย่างเมื่อก่อน  จะทำอะไรก็รู้สึกถึงความไม่เป็นส่วนตัว กลัวลูกจะตื่น กลัวลูกจะเห็น ซึ่งสันชาตญาณของความเป็นแม่จะทำให้ผู้หญิงมีความรู้สึกอย่างนี้มากกว่าผู้ชาย  ยิ่งคุณแม่บางคนเอาลูกมานอนบนเตียงด้วยกันเลย คอยเลี้ยง คอยดูแลกันทั้งคืน ใจก็สนใจอยู่แต่กับลูก ไม่ได้สนใจสามีเลย นอนอยู่เตียงเดียวกัน แต่รู้สึกเหมือนกับนอนคนละบ้าน

คุณแม่บางคนที่ยังเข็ดกับการตั้งครรภ์ การคลอด หรือเหนื่อยจากการเลี้ยงลูก แถมยังไม่ได้วางแผนคุมกำเนิดให้เป็นเรื่องเป็นราว ก็จะต้องมีเรื่องที่ต้องกังวลเพิ่มขึ้นมาอีกเรื่อง คือ กลัวการตั้งครรภ์ ลูกก็ยังเล็กท้องมาอีกคนคงบ้าตายไปซะก่อน ก็เลยทำให้ไม่ค่อยอยากที่จะมีเพศสัมพันธ์

เห็นมั๊ยล่ะครับเหตุที่ทำให้ต่อมความต้องการทางเพศหดหายไป เมื่อเราเข้าใจเหตุต่างๆแล้วก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะมาช่วยกันแก้ไข แต่ก่อนอื่นก็ต้องเข้าใจกันก่อนว่าการมีเพศสัมพันธ์นั้นเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตครอบครัวที่จะช่วยชูรสชูรักให้ความสัมพันธ์ต่อกันแน่นแฟ้น เป็นการแสดงความรักต่อกันได้แม้ไม่ได้พูดอะไรกันซักคำ  จะมาคิดว่าไม่มีอารมณ์ก็ไม่ต้องมีอะไรกันมันก็ไม่ดี  เดี๋ยวคุณสามีเขาแอบไปมีอะไรที่อื่นนอกบ้าน ถึงตอนนั้นมันก็สายเกินไปเสียแล้ว  เรื่องนี้จะเริ่มที่ใครไม่ได้นอกจากจะเริ่มที่ตัวเราเองก่อน   ..ไม่ยากหรอกครับถ้ามีความตั้งใจจริง

เริ่มต้นก็นึกถึงภาพตัวเองตอนก่อนมีลูก คิดถึงเรื่องอย่างว่าตอนช่วงก่อนมีลูก แล้วพยายามตั้งใจให้กลับมาเหมือนเดิมให้ได้ ต้องพยายามคุมอาหาร ออกกำลังกายให้หุ่นกลับมาเหมือนเดิม ท้องจะลายไปหน่อยก็ไม่ต้องสนใจ ปิดไฟก็ไม่เห็นแล้ว ลองกลับมายืนหน้ากระจกเหมือนเดิม ถ้ายังไม่เหมือนเดิมก็คงต้องอาศัยความตั้งใจและความอดทน แล้วสักวันก็จะสามารถกลับมามองดูตัวเองด้วยความภูมิใจเหมือนเดิม ความมั่นใจในตัวเองที่หายไปก็จะกลับมาอีกครั้ง แล้วก็อย่าลืมต้องบริหารโดยการขมิบก้นให้กระบังลมเข้าที่ ช่องคลอดกลับมากระชับเหมือนเดิม ถ้าทำทุกวันก็มักจะกลับมาเหมือนเดิมภายใน 3 เดือน แต่ถ้าทำต่อไปเรื่อยๆก็ยิ่งดีใหญ่ ถ้าเรารู้สึกว่าของเราดีแล้ว สามีติดใจ เราก็จะได้ภูมิใจที่เราสามารถกลับมามีทุกอย่างเหมือนเดิมด้วยตัวเราเอง

มีอะไรกันครั้งแรกๆหลังคลอดก็คงต้องเจ็บแผลกันบ้างเป็นธรรมดา ใครๆก็เป็นกันได้ไม่ต้องไปกังวลหรอกครับ แต่ถ้าไม่มั่นใจก็โทรไปปรึกษาคุณหมอที่ทำคลอดก็ได้ แต่ถ้าเลย 3 เดือนไปแล้วก็มักจะไม่มีอาการเจ็บหลงเหลืออยู่เลย ถ้ายังเจ็บก็คงต้องไปหาหมอตรวจซะให้เรียบร้อย  ..แต่รับรองว่าหมอคงไม่ลืมอะไรเอาไว้ข้างในหรอกครับ!

เรื่องของบทบาทของความเป็นแม่ กับความเป็นเมียนี่แหละที่สำคัญที่สุด เพราะโดยมาพอมีลูกก็มักจะเล่นบทบาทของความเป็นแม่ซะมากกว่า จนบางทีสามียังนึกว่าเราเป็นแม่ไปอีกคนเลย  เรื่องนี้จะต้องช่วยกันทั้งสองฝ่าย โดยคุณพ่อต้องพยายามหาโอกาสแทรกเข้าไปมีบทบาทตรงกลางระหว่างแม่กับลูกเยอะๆ ให้คุณแม่รู้สึกว่าต้องทำหน้าที่บทบาทของความเป็นเมียบ้าง  อย่างให้แม่กับลูกยุ่งกันอยู่แค่สองคน แล้วดูเหมือนพ่อเป็นคนนอก  ลุยเข้าไปเลย ช่วยกันเลี้ยงเจ้าตัวน้อย ฟัดลูกบ้าง ฟัดแม่บ้าง ให้ดูมีความสัมพันธ์ที่เป็นธรรมชาติ  แม้ว่าบางทีมีลูกนอนอยู่ในห้องด้วยกัน หากช่วยกันเลี้ยง พอลูกหลับก็เป็นเวลาของคุณพ่อคุณแม่สองคนแล้ว อ้อ..อย่างลืมแยกเตียงเจ้าตัวน้อยด้วยนะครับ  ถ้านอนเตียงเดียวกันเป็นก้างขวางคอแล้วยิ่งทำอะไรกันลำบาก

ในรายที่ยังไม่อยากมีลูกติดๆกันหัวปีท้ายปี ก็ควรไปหาหมอ ปรึกษาคุมกำเนิดซะให้เรียบร้อย จะได้ไม่ต้องมาห่วงพะวงว่าจะตั้งครรภ์

เห็นมั๊ยครับว่าการกลับมามีต่อมความรู้สึกทางเพศโตเท่าเดิมเป็นเรื่องที่ต้องทำด้วยตัวเอง ต้องอาศัยความพยายาม ความอดทนบ้าง  แต่ผลที่ได้มันก็คุ้มค่านะครับ ..หากได้ผลเกินคาดอาจต้องมาหาวิธีทำให้ต่อมนี้มันยุบลงก็ได้/.

ความคิดเห็น