ตอนท้องนอนท่าไหนดี?
ตอนที่ท้องรูปร่างทรวดทรงของคุณแม่ก็ต้องเปลี่ยนแปลงไป จากมีเอวอ้อนแอ้นก็กลับกลายเป็นทรงกระปุกตังฉ่าย จะนั่งจะนอนอะไรมันก็ลำบากกว่าเดิม แต่ยังไงคนเราก็ต้องนอนหลับพักผ่อนอยู่ดีแหละครับ ซึ่งหากนอนไม่ดี ท่าไม่สวยก็อาจจะมีผลต่อตัวคุณแม่และลูกในครรภ์ได้เหมือนกัน แต่ผลจากการนอนไม่ถูกท่าก็ไม่ได้มีอันตรายหนักหนาสาหัสต่อการท้องสักเท่าไหร่ ไม่ต้องไปซีเรียสอะไรมาก เพียงแต่หากนอนดีท่าสวย ก็จะนอนสบายกว่า อึดอัดน้อยกว่าเท่านั้นเองครับ
เริ่มกันตั้งแต่ท้องอ่อนๆกันเลยดีกว่า
ตอนที่เรายังไม่ท้องมดลูกคนเราปกติก็จะมีขนาดเล็กๆเท่ากับไข่ไก่ แต่พอท้องมดลูกมันก็ต้องโตขึ้น โตวันโตคืน จากไข่ไก่พอถึงสามเดือนก็จะโตเท่ากำปั้น พอห้าเดือนก็จะโตเท่าส้มโอ พอท้องแก่..โอ้โฮไม่น่าเชื่อมดลูกของคนเราสามารถพองโตเท่าลูกแตงโมได้เลยล่ะครับ แต่ปกติแล้วมดลูกมันก็ไม่ได้งอกเป็นติ่งอยู่ในท้องน้อยเฉยๆโด่เด่ แต่มดลูกก็จะมีปีกมดลูกมีเส้นเอ็นยึดมดลูกทางด้านข้างไว้ไม่ให้ล้มไปล้มมา ถ้าเราไม่มีปีกมดลูกยึดไว้ก็คงน่ารำคาญแย่เลย เพราะเดินไปเดินมามดลูกก็จะแกว่งไปแกว่งมาอยู่ข้างในตลอดเวลา ...คราวนี้พอท้องแล้วมดลูกมันก็จะโตขึ้น แล้วก็จะดึงรั้งปีกมดลูกเส้นเอ็นปีกมดลูกนี้จะตึง มดลูกยิ่งโตเอ็นปีกมดลูกก็ยิ่งตึง ไม่ต้องทำอะไรก็ตึงจะแย่อยู่แล้ว ช่วงท้องอ่อนๆคุณแม่หลายๆคนก็เลยอาจมีอาการเสียดท้องน้อยทางด้านข้างได้บ่อยๆ ช่วงนี้หากล้มตัวลงนอน หรือลุกขึ้นจากท่านอนไม่ดีก็จะทำให้เจ็บเสียดท้องน้อยได้ง่าย
ปกติตอนที่ไม่ท้องเวลาจะลงนอนก็จะเอนตัวหงายหลังลงไปเลย เวลาง่วงๆก็ไม่มีใครมาเสียเวลาท่ามากหรอกครับ เวลาจะลุกขึ้นก็ลุกขึ้นมาทื่อๆตรงๆ หรือเรียกว่างัดขึ้นงัดลงก็แล้วกันนะ ปีกมดลูกที่มันตึงเจ็บอยู่แล้ว ก็จะเจ็บตึงมากขึ้น ท่าลงนอนสวยๆดูดีก็ต้องค่อยๆตะแคงลงนอน ตะแคงลุกขึ้น ที่เขาเรียกว่าท่า นางเอกลิเก ยังไงยังงั้นเลยล่ะครับ เวลาลงนอนก็ต้องนั่งลงข้างเตียงก่อนแล้วเอามือวางไว้บนเตียง ตะแคงลงโดยใช้มือทั้งสองข้างช่วยรับน้ำหนัก จบท่านี้ก็จะนอนอยู่บนเตียงในท่านอนตะแคง จะนอนหงายก็ต้องพลิกตัวมาอีกที...เป็นเสร็จพิธี ท่าทรงบรรทม
ก่อนจะท้องก็อย่างที่บอกมดลูกมันมีขนาดแค่เท่ากับไข่ไก่ซึ่งมันก็หนักเพียงแค่ไม่กี่ขีด แต่พอตอนท้องมดลูกก็จะโตขึ้นเรื่อยๆ น้ำหนักของตัวมดลูกเอง น้ำหนักของเด็ก รก น้ำคร่ำ รวมๆแล้วก็หนักขึ้นเป็นหลายกิโล ดังนั้นตอนท้องอ่อนๆถ้านอนตะแคงถ้านอนตะแคงจะรู้สึกว่ามดลูกในท้องมันกลิ้งถ่วงไปตามแรงดึงดูดของโลก ตะแคงลงข้างซ้าย มดลูกก็จะล้มถ่วงไปทางซ้ายแล้วก็จะไปดึงรั้งตึงปีกมดลูกทางด้านขวาอีกที ทำให้เวลานอนตะแคงซ้าย พอตื่นขึ้นมาก็จะเจ็บเสียดๆปีกมดลูกด้านขวา หากนอนตะแคงทางด้านขวา ตื่นขึ้นมาก็จะเจ็บเสียดท้องด้านซ้าย ตอนท้องอ่อนๆที่จริงจะนอนหงายหรือนอนตะแคงก็ได้ นอนหงายก็ไม่อึดอัดมากนักเพราะน้ำหนักของมลูกมันยังน้อย แต่นอนตะแคงก็จะทำให้เจ็บปีกมดลูกได้ในบางราย ก็เลยให้นอนหงายธรรมดาสบายๆดีกว่า
ปกติแล้วคุณแม่ทั้งหลายก็มักจะเจ็บปีกมดลูกข้างซ้ายมากกว่าปีกมดลูกข้างขวา ตอนแรกก็สงสัยเหมือนกันว่าทำไมถึงต้องมาเจ็บข้างซ้าย พอแต่งงานมีเมียก็เลยรู้ว่าปกติคนไทยเราผู้ชายจะนอนข้างขวา ผู้หญิงจะนอนข้างซ้าย แล้วถ้ายังรักกันดีก็ต้องนอนหันหน้าเข้าหากัน ก็เลยทำให้ผู้หญิงมักจะตะแคงเอาข้างขวาลง ก็เลยมักจะเจ็บแต่ข้างซ้าย นี่ถ้าคุณแม่คนไหนเจ็บปีกข้างขวามาก็คงต้องสงสัยกันไว้ก่อนว่า อาจจะกำลังงอนกันอยู่หรือเปล่า!
เมื่ออายุครรภ์มากขึ้น มดลูกก็จะโตขึ้นเรื่อยๆปีกมดลูกก็จะตึงขึ้นเรื่อยๆเหมือนกัน ก่อนหน้านี้มดลูกยังเล็กเท่าไข่ไก่อยู่ในอุ้งเชิงกราน จะก้มจะเงย จะบิดซ้ายบิดขวาก็ไม่ได้มีความรู้สึกผิดปกติอะไร แต่พอมดลูกเริ่มโตสูงขึ้นมาในช่องท้อง เราจะก้มจะเงย มดลูกมันก็จะต้องมียืดมีหดตามไปด้วย จะบิดซ้ายบิดขวา มดลูกมันก็ต้องบิดซ้ายบิดขวาตามไปด้วย อยู่เฉยๆปีกมดลูกมันก็ตึงอยู่แล้ว ยิ่งบิดไปบิดมาก็ยิ่งตึงเจ็บใหญ่ ดังนั้นในระหว่าที่ตั้งครรภ์คุณแม่ก็ต้องทำตัวให้ลืมว่ามีเอว เวลานอนพลิกไปพลิกมาก็ให้พลิกไปทีเดียวทั้งตัว แล้วตื่นขึ้นมาก็ไม่ต้องบิดขี้เกียจเหมือนเมื่อก่อนด้วยนะครับ บิดทีเดียวอาจทำให้เจ็บปีกมดลูกไปอีกหลายวันเลยก็ได้
เวลาผ่านไป มดลูกของคุณแม่ก็จะโตขึ้นเรื่อยๆ จนประมาณ 28 สัปดาห์มดลูกก็จะโตจนยันเต็มด้านข้างของช่องท้องพอดี ตอนนี้มดลูกก็จะฟิตเต็มช่องท้อง ไม่ล้มไปล้มมาอีกแล้ว จะนอนตะแคงซ้ายตะแคงขวาก็จะไม่ค่อยเจ็บปีกมดลูกเหมือนตอนท้องอ่อนๆ แต่ด้วยมดลูกที่โตขึ้นก็จะทำให้อึดอัดนอนลำบากมากขึ้น ถ้าอยากรู้ว่าอึดอัดแค่ไหน ก็ลองเอาข้าวสารถุง 15 กิโลวางทับหน้าท้องตอนนอนหงาย มันก็อึดอัดหายใจไม่ออกอย่างนั้นเลยครับ นอกจากนั้นเมื่อมดลูกโตขึ้นน้ำหนักของมันก็จะมากขึ้นตามไปด้วย ถ้านอนหงายน้ำหนักของมดลูกที่มากขึ้นก็จะไปกดทับลงบนเส้นเลือดใหญ่ทางด้านหลัง ทำให้เลือดไหลกลับเข้าสู่หัวใจน้อยลง เลือดก็ไหลออกไปเลี้ยงส่วนต่างๆน้อยลง โดยเฉพาะสมอง พอได้รับเลือดไปเลี้ยงน้อยลงก็จะทำให้มีอาการหน้ามืดเป็นลม ...ก็แปลกดีนะครับ มีแต่ยืนอยู่มีอาการเป็นลม ก็ต้องให้นอนพัก แต่นี่นอนแล้วเป็นลม พอลุกขึ้น อาการก็จะดีขึ้น!
ดังนั้นตอนท้องโตๆแล้วก็ควรนอนตะแคง จะโตแค่ไหน?..ก็เอาเป็นว่า หลังจาก 28 สัปดาห์แล้วถ้านอนตะแคงก็จะไม่เจ็บปีกมดลูกมากนักก็ให้นอนตะแคงเป็นหลักก็แล้วกัน บางคนก็ว่าให้นอนตะแคงทับซ้ายจะดีกว่า ด้วยเหตุผลที่ว่าหัวใจของเราปกติมันก็จะอยู่ในทรวงอกค่อนไปทางซ้าย เส้นเลือดแดงใหญ่ที่ออกจากหัวใจก็จะออกจากทางด้านบนของหัวใจแล้วตีโค้งยาวลงมาข้างล่างพออยู่ในช่องท้องก็จะอยู่ค่อนไปทางด้านขวา หลายๆคนก็เลยคิดว่านอนตะแคงไปทางขวาก็อาจกดทับเส้นเลือดใหญ่ได้ แต่นั่นก็เป็นเรื่องของทฤษฎีเท่านั้น แต่ที่จริงแล้วเราจะไม่มีทางรู้หรอกว่านอนตะแคงขวากี่องศาจะกดพอดี นอนตะแคงด้านซ้ายกี่องศาจะกดพอดี แล้วการนอนตะแคง น้ำหนักมดลูกก็ไม่ได้ไปกดทับเส้นเลือด แต่เป็นการกดเบียดกันมากกว่า อัตราการไหลของเลือดเมื่อตะแคงซ้าย หรือขวาก็ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญหรอกครับ จะให้นอนหันซ้ายลงหันหลังให้สามีทุกวันยันคลอดมันก็ดูห่างเหินยังไงชอบกล เดี๋ยวคลอดเสร็จแล้วจะจำหน้าสามีไม่ได้
แต่จะให้นอนตะแคงอยู่ท่าเดียวทั้งคืนก็คงจะเมื่อยแย่ ก็คงต้องมีพลิกซ้ายพลิกขวากันบ้าง ตอนท้องแก่ๆจะพลิกซ้ายพลิกขวาก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆนะครับ เพราะบางทีอยากจะพลิกตัว แต่พลิกแล้ว ตัวเราไปแต่มดลูกมันหนักเลยไม่พลิกไปพร้อมกับตัวดั่งใจ บางทีต้องออกแรงพลิกตัวเพื่อดึงลากเอามดลูกให้หมุนตามตัวไปด้วย พลิกเสร็จปั๊บก็จะเจ็บปีกมดลูกทันทีเลยครับ เจ็บก็ไม่ได้เจ็บแป๊บเดียวเจ็บกันหลายวันเลยทีเดียว ดังนั้นเวลาพลิกตัวก็ต้องคอยเอามือช่วยประคองท้องให้หมุนตามไปด้วย แค่นี้ก็ไม่เจ็บแล้วครับ
คุณแม่หลายคนก็อาจสังเกตว่าลูกมักจะดิ้นเยอะตอนที่นอนตะแคงด้านใดด้านหนึ่ง บางทีตะแคงซ้ายดิ้นเยอะ ตะแคงขวาดิ้นน้อย หรืออาจจะตะแคงซ้ายดิ้นน้อย ตะแคงขวาดิ้นเยอะ คุณแม่บางคนก็อาจจะสงสัยว่าเวลานอนตะแคงแล้วจะไปทับลูกหรือเปล่า ก็ต้องบอกกันก่อนว่าลูกในท้องเขานอนอยู่ในถุงน้ำคร่ำ ถุงน้ำคร่ำก็จะมีน้ำคร่ำบรรจุอยู่ โดยน้ำคร่ำที่ว่านี้ก็จะมีปริมาตรคงที่ตลอด ถ้านอนทับด้านนี้น้ำคร่ำก็จะรักษารูปทรงของมดลูกก็จะไปปูดออกด้านโน้น เนื้อที่ที่ลูกอาศัยอยู่ก็จะคงที่ตลอดไม่เปลี่ยนแปลง นอนตะแคงยังไงก็ไม่มีทางไปทับลูกแต่อย่างไร ขออย่างเดียวอย่าไปนอนคว่ำเป็นใช้ได้ เพราะนอนคว่ำน้ำหนักตัวแม่ก็จะทับลูกแบนแต๊ดแต๋แน่นอน
ปกติแล้วเด็กที่เกิดใหม่ๆก็มักจะชอบนอนคว่ำมากกว่านอนหงาย แต่ทำไมเด็กถึงชอบก็ไม่รู้จะไปถามเด็กคนไหนดี รู้แต่ว่าถ้านอนหงายแล้ว เด็กก็จะมีอาการเหมือนกับผวาบ่อยๆ เด็กในท้องก็เหมือนกันนะครับ เขาชอบที่จะคว่ำมากกว่าหงาย แล้วเด็กในท้องก็มักจะนอนตะแคง เอาด้านข้างแนบไปกับตัวแม่ อาจหันหน้าไปทางซ้ายหรือขวาก็ได้ แต่มากกว่าครึ่งหลังจะอยู่ทางด้านซ้าย หันหน้าไปด้านขวา ถ้าแม่นอนตะแคงเอาขวาลงเด็กในท้องก็จะอยู่ในท่านอนคว่ำ ซึ่งเป็นท่าที่เด็กชอบ เขาก็เลยไม่ต้องไปพลิกไปหาท่าที่สบาย แม่ก็เลยไม่ค่อยรู้สึกว่าลูกดิ้นสักเท่าไหร่ แต่ถ้าแม่หมุนพลิกตัวตะแคงไปเอาซ้ายลง ลูกก็จะอยู่ในท่านอนหงายเขาก็จะดิ้นเยอะไปหาท่าที่สบายมากกว่า
คุณแม่บางคนพอท้องแก่ๆก็จะมีอาการบวม นั่นก็เป็นเพราะว่าตอนท้องร่างกายของคุณแม่มีเลือดในร่างกายเพิ่มขึ้นมากกว่าตอนไม่ท้องกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ ปริมาณน้ำในร่างกายก็เพิ่มขึ้น ดังนั้นเวลาคุณแม่ยืนหรือเดินนานๆ น้ำในร่างกายก็จะไหลตามแรงโน้มถ่วงไปกองที่ขาเยอะ ในกรณีนี้เวลานอนก็ควรหาหมอนมาหนุนใต้เข่าและขาท่อนล่างลงไปให้สูงขึ้นก็จะช่วยลดอาการบวมของขาได้ แต่พอขายุบมือก็จะมาบวมแทน เพราะตอนนอนมือก็จะวางอยู่บนพื้นเตียงซึ่งจะต่ำกว่าขา ตื่นเช้ามาก็จะรู้สึกว่ามือมันหนาๆ กำไม่ลง บางคนก็จะมีอาการปวดที่ข้อมือได้ วิธีแก้ก็ต้องหาหมอนมารองมือไว้ทั้งสองข้าง หรือไม่ก็นอนเอามือวางบนพุง แต่ก็บอกตามตรงว่ามันไม่ค่อยได้ผลสักเท่าไหร่เพราะบอกให้วางมือไว้สูงๆ พอนอนไปนอนมา ดิ้นไปดิ้นมา หมอนก็กระจายหายหมดแล้วครับ ตื่นขึ้นมามือก็ยังบวมเหมือนเดิม แต่อาการมือบวมก็ไม่ได้มีอันตรายอะไรมากมายหรอกครับ ตื่นขึ้นมาเดินไปเดินมาไม่ถึงชั่วโมงมือก็จะหายบวมไปเอง หรือ อาบน้ำตอนเช้า เอามืออังน้ำอุ่นสักแป๊บนึง ก็จะหายเร็วขึ้น บางรายก็มีอาการปวดตามข้อร่วมด้วย เพราะตอนมือบวมเราจะกำมือได้ยาก เหมือนเราใส่ถุงมือหนาๆหลายๆชั้นมันจะกำมือลำบาก ยิ่งฝืนกำก็จะยิ่งปวดข้อมากขึ้น ถ้ามีอาการปวดข้อมือ ก็หาผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นๆมาประคบสักหน่อยก็จะช่วยได้เยอะ
การเอาหมอนหนุนไว้ใต้เข่าก็ยังช่วยให้คุณแม่ที่มีอาการปวดหลังรู้สึกดีขึ้นด้วย เนื่องจากตอนตั้งครรภ์ มดลูกก็จะถ่วงโย้ไปข้างหน้า ก็จะดึงให้หลังแอ่นตามไปข้างหน้าด้วย กล้ามเนื้อหลังก็จะต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อรักษาสมดุลของร่างกาย พอถึงตอนนอน ถ้าหากนอนราบแบนๆ โดยมากหลังก็ไม่ได้แตะลงบนพื้นหรอกครับ ไม่เชื่อตอนนอนลองเอามือสอดไปใต้หลังดูก็ได้ หลังมักจะแอ่นขึ้นมาจากพื้นเล็กน้อย กล้ามเนื้อหลังก็เลยไม่ได้พักอย่างจริงจัง การใช้หมอนหนุนใต้เข้าก็จะช่วยทำให้หลังได้พักมากขึ้นก็จะช่วยลดอาการปวดหลังได้
ทุกเรื่องราวของการนอนในระหว่างการตั้งครรภ์ก็คงไม่มีอะไรมากไปกว่านี้
ก็อยากจะบอกว่าตอนท้องอยากนอนก็ควรรีบๆนอนซะ ตอนท้องนอนเยอะ
ขี้เกียจยังไงก็ไม่มีใครว่า หลังคลอดไปแล้วอยากนอนแทบตายก็ไม่ได้นอนหรอกครับ
ลูกรักของคุณแม่จะตื่นให้อุ้มกันทั้งคืนจนตาโบ๋กลายเป็นนกฮูกเลยล่ะครับ
ถึงตอนนั้นก็คงคิดถึงตอนที่ยังไม่คลอด
คิดถึงตอนที่ได้หลับอุตุอย่างมีความสุข..ฟรี้...ฝันดีนะ/.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น