ความหน่วงกับการตั้งครรภ์


 

ตอนที่ไม่ท้อง มดลูกของแม่จะมีขนาดประมาณไข่ไก่เท่านั้นเองครับ แต่หลังจากมีการตั้งครรภ์แล้ว มดลูกในท้องของคุณแม่ก็จะโตวันโตคืน ใหญ่ขึ้น แล้วก็หนักขึ้นเรื่อยๆ ... 

เมื่ออายุครรภ์มากขึ้น ทารกในครรภ์ตัวโตขึ้น ปริมาณน้ำคร่ำเพิ่มมากขึ้น มดลูกก็จะยิ่งหนักมากขึ้นเรื่อยๆไปตามอายุครรภ์

 

ตอนประมาณ 3 เดือน ..มดลูกก็มีขนาดประมาณเท่ากับมะพร้าวเผาลูกนึง น้ำหนักมดลูกในท้องน้อยคุณแม่ก็หนักประมาณมะพร้าวเผา ...

พอตั้งครรภ์ได้ 20 สัปดาห์ มดลูกก็จะหนักประมาณเท่ากับส้มโอลูกใหญ่ๆลูกนึง ... 

สุดท้าย พอตั้งครรภ์ครบกำหนด มดลูกก็จะหนักเท่ากับแตงโมลูกยักษ์ลูกนึงเลยทีเดียว ...แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว

 

เมื่อลูกโตขึ้นเรื่อยๆมันก็จะหนักขึ้นเรื่อยๆ น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นของมดลูกนั้น ก็จะทำให้คุณแม่รู้สึกถึงน้ำหนักที่มากขึ้น เมื่อมีน้ำหนักก็ย่อมมีความหน่วง แต่ความหน่วงกับน้ำหนักนั้นมันไม่ได้เกิดขึ้นพร้อมๆกัน...

งงมั๊ย..??? 

ถ้าคุณแม่แบกมดลูกหนักๆแล้วเคลื่อนที่ไปในแนวราบ ... ไปเรื่อยๆสบายๆ ...คุณแม่ก็จะรู้สึกแต่ความหนักอย่างเดียว 

แต่ถ้าคุณแม่แบกมดลูกหนักๆแล้วมีการเคลือนที่ในแนวดึ่ง ... เช่น กระโดด ลงบันได คุณแม่ก็จะรู้สึกถึงความหน่วง ดึ๋งดัํงทันที 

ดังนั้นความหน่วงในระหว่างการตั้งครรภ์ จะแปลตามน้ำหนักของมดลูกกับการเคลื่อนที่ในแนวดิ่ง ...ชักจะมาในแนวฟิสิกข์จลศาสตร์ซะแล้ว ...แต่ก็พอเข้าใจนะครับ.. เมื่อรู้จักความหน่วงแล้ว แล้วจะอยู่ยังไงกับมันดีล่ะ ่ต้องทำตัวยังไง ต้องปรับตัวอย่างไรดีล่ะทีนี้ 

อย่างแรกเมื่อมดลูกหนักจนคุณแม่รู้สึกถึงความหน่วงชัดเจนแล้ว คุณแม่ต้องหัดเปลี่ยนท่าเดินที่ทำให้เกิดความหน่วงน้อยที่สุด ผู้หญิงเรามองตัวเองไม่ออกหรอกครับว่าท่าเดินเราเป็นยังไง บางคนก็เดินนวยนาด บางคนก็เดินแบบม้าย่อง บางคนก็เดินเด้งขึ้น เด้งลง 

เอาเป็นว่าเดินยังไงก็แล้วแต่ ถ้าเดินขย่มๆมีการเคลื่อนที่ในแนวดิ่งมาก คุณแม่ก็จะรู้สึกหน่วงเยอะ คุณแม่ต้องพยายามฝึกเดินให้ราบเรียบมากที่สุด รู้สึกถึงการขย่มให้น้อยที่สุด ... ความหน่วงก็จะน้อยที่สุดเช่นกัน 

แต่อย่างไรก็ตาม บางทีถึงแม้ว่าจะพยายามเดินให้ราบเรียบที่สุดแล้ว การเดินมากเกินไป ก็ทำให้รู้สึกหน่วงอยู่ดี ... แปลว่า ท้องยิ่งแก่ มดลูกยิ่งหนัก ยิ่งต้องพยายามเดินให้น้อยลงนะครับ

เวลาขึ้นบันไดบ้านมันจะไม่หน่วง แต่ตอนลงนี่สิหน่วงทันที ดังนั้นตอนลงบันไดก็ต้องระวังเป็นพิเศษ หากลงเร็ว ลงน้ำหนักเยอะ มีแรงกระแทกเยอะ ก็จะรู้สึกหน่วงเยอะ ... คุณแม่ควรลงบันไดให้เหมือนลอยลงมาบนก้อนเมฆ ..?? โอ๊ะ อย่าเพิ่งนึกว่ากำลังฝึกกำลังภายในอยู่ แค่เปรียบเปรย ... คุณแม่ควรลงบันไดช้าๆ ลงน้ำหนักขานิ่มๆ ยืดหยุ่นดีดี จับราวบันไดไว้เพื่อผ่อนน้ำหนัก ... แค่นี้ความหน่วงก็น้อยลงแล้วครับ

 

คุณแม่บางคนก็ถามว่าในระหว่างการตั้งครรภ์นั้นสามารถเดินทางไปต่างจังหวัดได้ไหม ก็ต้องถามว่าต่างจังหวัดเมืองไทยหรือเปล่า ... เมืองไทยนั้นมีดีหลายอย่าง มาแล้วห้ามพลาด ... สะพานข้ามคลองเล็กคลองน้อยเมืองไทยนั้นมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนประเทศใดใดในโลก จะว่าเป็น Thailand Only ก็ได้ สะพานปกติแล้วเวลาวิ่งมันต้องรู้สึกราบเรียบเหมือนไม่มีรอยต่อเลย แต่ของบ้านเราเวลาขึ้นสะพานก็จะเหมือนเป็นเนินกระโดด เวลาขาลงสะพานก็กระโดดลงยวบอีกรอบ ตอนคุณแม่นั่งรถไปต่างจังหวัด เจอสะพานแบบนี้ไปตลอดทาง มดลูกของคุณแม่ก็จะเด้งขึ้นเด้งลงไปตลอดทางด้วยเช่นกัน กว่าจะถึงที่หมายคุณแม่คงรู้สึกหน่วง มดลูกแทบจะหลุดกระเด็นออกมาข้างนอกเลยแหละครับ ถ้าสะเทือนมากๆก็อาจจะทำให้จุก หรือเจ็บท้องได้ ดังนั้นถ้าขับรถไปเองก็ควรขับรถอย่างระมัดระวัง ขับขึ้นลงสะพานช้าๆนิ่มนวล ก็น่าจะทำให้ความหน่วงเกิดขึ้นไม่มาก แต่ถ้าหากจำเป็นต้องเดินทางโดยรถบัสล่ะ เมืองไทยเราขาซิ่งแบบไม่เกรงใจก็เยอะนะ ...อันดับแรกขึ้นรถมาก็บอกคนขับก่อนเลยว่า ท้องแก่นะพี่ ขับอย่าซิ่งมากเด๋วหนูเจ็บท้องคลอดบนรถพี่ซะก่อน แล้วถ้าเลือกที่นั่งก็ควรเลือกตรงกลางคันจะสะเทือนน้อยสุด ตรงตำแหน่งที่ตรงกับล้อจะสะเทือนหนักสุด แต่ที่ห้ามไปนั่งเลยก็คือท้ายรถครับ มันจะเด้งจนมดลูกครากเลยล่ะ ...หากไปเที่ยวทะเล ต้องนั่งเรือออกทะเล ก็เหมือนกันนะครับ บอกคนขับก่อน แล้วเลือกนั่งตอนท้ายของเรือ เพราะส่วนหัวเรือจะโต้คลื่นเด้งขึ้นเด้งลงตลอดเวลา ส่วนท้ายจะนิ่งกว่า สะเทือนกับท้องของคุณแม่น้อยกว่าด้วย

 

เมื่อท้องแก่แล้ว ความรู้สึกหน่วงก็จะมากขึ้น เดินก็หน่วง ไม่เดินก็หน่วง เพราะน้ำหนักของมดลูกมันมากขึ้น กดอุ้งเชิงกรานมากขึ้น คุณแม่จะรู้สึกปวดหน่วงในอุ้งเชิงกรานเจ็บลงไปในช่องคลอดเหมือนจะมีอะไรหลุดออกมา คุณแม่ท้องหลังๆอาจจะรู้สึกหน่วงมากกว่าคุณแม่ท้องแรก เนื่องจากท้องแรกนั้นผนังหน้าท้องยังแข็งแรงพยุงรับน้ำหนักได้เยอะอยู่ แต่ในท้องหลังผนังหน้าท้องคุณแม่จะหย่อนย้วยทำให้ไม่มีแรงอุ้มไม่มีแรงรับน้ำหนัก ความหน่วงก็จะเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นถ้าคุณแม่รู้สึกหน่วงมากก็อาจจำเป็นต้องใส่เข็มขัดพยุงครรภ์หรือกางเกงในพยุงครรภ์ ซึ่งจะทำให้ความหน่วงนั้นน้อยลง ...

 

แต่ที่จริงความหน่วงนั้นมันก็ไม่หายไปไหนหรอกครับ กินยาอะไรมันก็ไม่หาย เราสามารถแค่ทำให้มันหน่วงน้อยลงเท่านั้นเอง แต่อาการทั้งหมดมันจะหายทันทีที่คลอดเสร็จเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นคุณแม่ที่มีความรู้สึกหน่วง ก็ให้คิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติละกันนะ ตราบใดก็ตามที่เรายังเหยียบอยู่บนพื้นโลกที่มีแรงดึงดูดของโลกนี้อยู่ หนีไปไหนก็ไม่ได้ หลังคลอดแล้วเหมือนยกภูเขาออกจากอก ยกเด็กออกจากท้อง ... คลอดแล้วโล่งสบายตัว....อดทนอีกนิดนะครับ


ความคิดเห็น