ริดสีดวงทวาร…เพื่อนสนิทยามตั้งครรภ์
ริดสีดวงทวารเป็นภาวะที่พบได้บ่อยทั้งคนปกติและคนที่ตั้งครรภ์ ถ้าหากไม่เคยเป็นมาก่อนเลยก็อาจจะมาเป็นเอาตอนที่ตั้งครรภ์นี้ก็ได้ และถ้าหากเคยเป็นมาก่อนอยู่แล้วก็ยิ่งที่จะเป็นมากขึ้น ประมาณกันว่าในคณแม่ที่ตั้งครรภ์ 10 คน จะมี 1 คนที่เป็นริดสีดวงทวาร
การเปลี่ยนแปลงของคุณแม่ในระหว่างการตั้งครรภ์ทั้งหลายแหล่ต่างก็ช่วยส่งเสริมทำให้ริดสีดวงเป็นมากขึ้น ในช่วงที่เริ่มตั้งครรภ์
เลือดก็จะไหลเวียนไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆในอุ้งเชิงกรานมากขึ้น อีกทั้งฮอร์โมนที่เพิ่มมากขึ้นในระหว่างการตั้งครรภ์ก็มีผลทำให้เกิดการขยายตัวของเส้นเลือด
อย่างนี้ก็ยิ่งไปกันใหญ่..เท่านั้นยังไม่พอฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้นยังทำให้ลำใส้ทำงานช้าลง อาหารต่างๆตกค้างอยู่ในลำใส้ได้นานขึ้น ลำใส้ดูดน้ำกลับเข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้น
ทำให้อุจจาระค่อนข้างแข็ง ท้องผูกง่าย
เข้าห้องน้ำถ่ายแต่ละครั้งก็ต้องนั่งนานเป็นชั่วโมง การนั่งส้วมนานๆ
โดยเฉพาะคนที่ชอบเอาหนังสือไปอ่าน เอางานไปทำด้วยตอนถ่าย
การเบ่งถ่ายติดต่อกันนานๆก็จะยิ่งทำให้ริดสีดวงโป่งขยายออกมามากขึ้น
ในระหว่างการตั้งครรภ์คุณหมอก็มักจะให้รับประทานยาบำรุงครรภ์ด้วย ยานี้มีประโยชน์เป็นอย่างมากสำหรับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ทุกคน แต่ก็มีข้อเสียบ้าง
คือทำให้ถ่ายอุจจาระออกมามีสีดำ แถมยังมีกลิ่นเหม็นมากกว่าเก่าเสียอีก แต่ที่สำคัญยังทำให้เกิดอาการท้องผูกได้อีกด้วย
ในช่วงครรภ์แก่ ลูกในครรภ์มีขนาดโตขึ้นเยอะ ท้องของคุณแม่ก็ขยายโตขึ้นจนแน่นไปหมด แต่เดิมท้องของเราเคยเป็นที่ที่ของกระเพาะอาหาร
และ ลำใส้ ตอนนี้ก็ถูกมดลูกเบียดดันขึ้นไปอยู่ใต้หน้าอก
ถ้าหากเผลอทานอะไรเข้าไปมากเกินไปก็จะทำให้จุกแน่นหายใจไม่ออก นอกจากนั้นมดลูกยังกินพื้นที่ไปกดเบียดลำใส้เสียจนแบนแต๊ดแต๋
อาหารไหลผ่านไปได้ยากก็ยิ่งทำให้มีอาการท้องผูกมากขึ้นกว่าเก่า
เมื่อใกล้คลอด
ความดันในช่องท้องสูงขึ้นมากจากการขยายตัวจนโตเต็มที่ของมดลูก ริดสีดวงทวารจึงมักจะถูกดันจนโผล่ออกมาข้างนอก
ยิ่งตอนท้องลดหัวของลูกก็จะเคลื่อนตัวลงต่ำลงไปกดอยู่ที่ด้านในของทวารหนัก ริดสีดวงจึงเป็นมากขึ้นในช่วงใกล้คลอดนี่เอง
ช่วงวิกฤตของริดสีดวง..
ก็คือช่วงเบ่งคลอดนั่นเอง การเบ่งคลอด
ความรู้สึกของคุณแม่ก็คล้ายๆกันกับการเบ่งอุจจาระ
แต่รู้สึกว่าจะต้องเบ่งออกมาก้อนใหญ่กว่าอุจจาระเท่านั้นเอง การเบ่งคลอดต้องใช้แรงในการเบ่งมหาศาล ต้องใช้เวลาในการเบ่งค่อนข้างนาน
หัวของลูกก็เบียดดันทวารหนักให้ปลิ้นออกมามากขึ้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระหว่างการคลอดทุกๆอย่าง
ก็นับเป็นการทารุณกรรมต่อริดสีดวงอย่างแสนสาหัส
พอการคลอดเสร็จสิ้น
ต่างฝ่ายต่างยินดีสำหรับลูกน้อยที่เพิ่งโผล่ออกมาดูโลก……แต่ริดสีดวงคู่ทุกข์คู่ยากที่โผล่ออกมาดูโลกภายนอกพร้อมๆกัน ดูไม่มีใครมายินดีด้วยเลย
นอกจากนั้นริสีดวงที่เกิดขึ้นในระยะหลังคลอดก็มักจะทำให้เกิดความเจ็บปวดได้บ่อยๆ เจ็บแผลฝีเย็บหลังคลอดไม่เท่าไหร่
แต่เจ็บริดสีดวงนี่มันทรมาณจริงๆนะ
จะนั่งก็จะไม่ค่อนถนัด ต้องตะแคงก้นนั่ง ขวาบ้าง ซ้ายบ้างสลับกันไป ไปเยี่ยมหลังคลอดรู้เลยล่ะครับ
ถ้าเห็นคุณแม่นั่งบิดๆ ตะแคงขวาตะแคงซ้าย แน่ใจได้เลยครับว่า
มีริดสีดวงแถมมาให้ด้วยตอนคลอด
คุณแม่หลายๆคนก็ต้องมาบ่นอยู่เสมอว่า
หมอมาแถมริดสีดวงมาให้ด้วยทำไม
…..อันนี้ก็ต้องขอสารภาพเอาไว้ก่อนนะครับว่าตอนคลอด หมอทำคลอดทุกคนก็คงสาละวนวุ่นวายกับการคลอด
ต้องกดแผลฝีเย็บที่ตัดเอาไว้ไม่ให้ฉีกขยายกว้างออกไป ต้องดูดน้ำเมือก
น้ำคร่ำในปากในจมูกเด็กออกให้หมด
เลยไม่ทันได้มีเวลามาอุดริดสีดวงเอาไว้
การเจ็บที่ริดสีดวงในช่วงหลังคลอดมักจะเป็นมากในช่วง 3-4 วันแรก
ส่วนมากแล้วก็ไม่ค่อยเกิน 7 วัน
ยกเว้นในบางรายที่เกิดก้อนเลือดจับตัวแข็งอยู่ในก้อนริดสีดวง
ก็มักจะเจ็บมากกว่า และเจ็บนานกว่า
ถ้ามีการเจ็บปวดมากก็อาจจำเป็นต้องผ่ากรีดเอาก้อนเลือดออก
อย่างไรก็ตามริดสีดวงทวารก็มักจะยุบจนหายไม่มีอาการในไม่เกิน 6 สัปดาห์หลังคลอด แต่ก็มักจะยุบไม่หมด
มักจะเหลือไว้ให้ดูใจกันนิดหน่อย
ดังนั้นถึงแม้ริดสีดวงจะยุบไปแล้วก็ควรจะดูแลตัวเองให้ดีด้วย อย่าให้ท้องผูกเป็นอันขาด
เพราะวันดีคืนดีริดสีดวงก็อาจจะโผล่ออกมาเยี่ยมได้เป็นครั้งคราว
การดูแลรักษาริดสีดวงที่สำคัญก็อยู่ที่การป้องกัน
ที่ยังไม่เป็นก็ต้องดูแลป้องกันไว้อย่าให้เป็น โดยพยายามดื่มน้ำมากๆ รับประทานอาหารประเภทผักสด ผลไม้ให้เพียงพอ
ฝึกหัดการเข้าถ่ายอุจจาระให้เป็นเวลาให้เป็นนิสัย
หลีกเลี่ยงการนั่งส้วมติดต่อกันเป็นเวลานานๆ
ถ้าหากมีอาการท้องผูกก็ควรปรึกษาคุณหมอ
ไม่ควรซื้อยาระบายมารับประทานเอง
เพราะยาบางอย่างอาจจะไปมีผลกระทบต่อลูกในครรภ์ได้โดยไม่รู้ตัว
ยาระบายที่ดีที่สุดสำหรับคนท้องก็ควรเป็นยาประเภทที่ทำให้อุจจาระเหลวอ่อนนุ่ม
เบ่งถ่ายออกมาได้ง่าย
ยาระบายประเภทที่กระตุ้นให้ลำใส้บีบตัวทำงานมากขึ้นก็ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง
เพราะแทนที่จะกระตุ้นกล้ามเนื้อเรียบของลำใส้เพียงอย่างเดียว
บางทีอาจไปกระตุ้นกล้ามเนื้อเรียบของมดลูกให้มีการบีบรัดตัวได้ด้วยเหมือนกัน ส่วนยาระบายประเภทที่เป็นน้ำมัน เช่น
น้ำมันละหุ่น ก็ไม่แนะนำให้ใช้ติดต่อกันบ่อยๆในระหว่างตั้งครรภ์
เพราะยาระบายประเภทที่เป็นน้ำมันจะขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็ก และ วิตามินต่างๆได้
คุณแม่บางคนอาจจะมีปัญหาเรื่องอุจจาระแข็งมากๆ ก็ไม่แนะนำให้ใช้ลูกสวนในการสวนอุจจาระ
เพราะวิธีนี้จะเป็นการกระตุ้นให้เกิดการเจ็บครรภ์ก่อนกำหนดได้ แค่เหลาสบู่เป็นแท่งเล็กๆสวนก้นก็พอ
ยาระบายธรรมชาติที่ได้ผลดี หาได้ง่าย แถมอร่อยอีกด้วย นั่นก็คือ “ลูกพรุน”
นั่นเอง เดี๋ยวนี้เห็นมีทำเป็นน้ำขาย แต่ถ้าจะให้ประหยัดหน่อยก็ซื้อเป็นเม็ดมารับประทานเล่นบ่อยๆ
ก็ช่วยป้องกันไม่ได้ท้องผูกได้เป็นอย่างดี
สำหรับคุณแม่ที่เป็นริดสีดวงอยู่แล้ว ทีสำคัญก็คือ
การดูแลไม่ให้เป็นริดสีดวงมากขึ้นกว่าเก่า
ซึ่งก็ยากเหมือนกันนะครับ
เพราะการตั้งครรภ์มักจะคอยซ้ำเติมให้ริดสีดวงเป็นมากขึ้น ดังนั้นคุณแม่ก็ควรเอาใจใส่ดูแลเรื่องระบบทางเดินอาหารของตัวเองให้ดี
ถ้าหากเริ่มมีอาการท้องผูกก็ควรรีบปรึกษาคุณหมอทันที
เพื่อที่จะได้รับการดูแลรักษาตั้งแต่ยังเป็นน้อยๆ
คุณแม่ควรเอาใจใส่ตัวเองมากขึ้นในยามเข้าห้องน้ำ
ถ้าหากพบว่ามีริดสีดวงแอบเล็ดลอดออกมาข้างนอก ก็ควรดันกลับเข้าไปข้างในทุกครั้ง เพราะการปล่อยให้ริดสีดวงออกมาอยู่ภายนอกนานๆ
จะทำให้เกิดการบวมมากขึ้น
เนื่องจากถูกหูรูดของทวารหนักรัดเอาไว้
เลือดที่มาเลี้ยงไม่สามารถไหลกลับออกไปได้สะดวก พอริดสีดวงออกมาอยู่ข้างนอกนานๆ
ก็จะติดใจไม่อยากกลับเข้าไปข้างในอีกแล้ว
ตอนนี้คุณแม่จะรู้สึกเหมือนกับว่ามีอะไรมาจุกอยู่ที่ก้นตลอดเวลาน่ารำคาญ ถ้ามีอาการเจ็บปวดที่ริดสีดวง อาจใช้ยาทา
หรือยาเหน็บริดสีดวงก็จะช่วงบรรเทาอาการได้มาก
ถ้าปวดมากการใช้น้ำแข็งช่วงประคบที่ริดสีดวงก็จะช่วยได้มากทีเดียว
….แต่ก็คงจะเย็นก้นน่าดูเหมือนกัน !
ถ้าคุณแม่เป็นริดสีดวง..ก็ควรดูแลเอาใจใส่เขาเหมือนเป็นเพื่อนเราคนหนึ่ง
หลังคลอดสักระยะหนึ่งเขาก็จะจากไป
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น