กลับมามีเพศสัมพันธ์อีกครั้งตอนหลังคลอด
เกิดมาเป็นผู้หญิงก็ต้องมีบทบาทหน้าที่ตั้งหลายอย่าง พอแต่งงานแล้วก็ต้องเป็นภรรยาสุดที่รัก ตอนท้องก็จะเริ่มงงๆ งานการในหน้าที่ของเมียที่ดีก็จะน้อยลง เนื่องจากสังขารไม่ให้ พอคลอดลูกออกมาแล้วคราวนี้ยิ่งไปกันใหญ่ เพราะความเป็นแม่นั้นมันยิ่งใหญ่นัก ธรรมชาติสร้างให้ผู้หญิงเราเป็นแม่มากกว่าเป็นเมีย ฮอร์โมนของการให้นมของแม่ก็เลยกดฮอร์โมนเพศหญิง ความต้องการทางเพศตอนหลังคลอดก็เลยหดหายไปหมดด้วย คุณพ่อก็เลยต้องนอนก่ายหน้าผากตาปริบ ดูลูกดูดหลับคาเต้าอย่างมีความสุข...เฮ้อ อิจฉาจัง!!
คุณแม่หลังคลอดหลายคนก็ยังสงสัยตัวเองเหมือนกันว่า ทำไมหลังจากมีลูกแล้ว ความรู้สึกในเรื่องอย่างว่าไม่รู้มันหดหายไปไหนหมด ไม่สดใสซาบซ่าเหมือนเมื่อก่อนเลย แถมบางรายกลับมาโทษหมออีกต่างหากว่าตอนคลอดไปแอบตัดเอาต่อมอะไรผิดออกไปหรือเปล่า ถึงได้คลอดแล้วไม่มีอารมณ์ทางเพศเหลืออยู่เลย
ปัญหาเรื่องต่อมความรู้สึกทางเพศมันหดหายไปตอนคลอดลูกก็เป็นเรื่องที่เป็นกันเยอะมาก ส่วนผู้ชายไม่ต้องพูดถึง อดมาตั้งนานต่อมความต้องการก็มักจะพองบวมโตกว่าปกติ คลอดไปเรียบร้อยแล้ว หมอใจร้ายก็ยังให้งดต่อไปอีกตั้งเดือนครึ่ง ยิ่งห้ามมันก็ยิ่งอยาก ตอนหลังคลอดก็เลยอาจมีปัญหาความไม่สมดุลของความต้องการทางเพศได้ คุณสามีก็อยากจะแย่อยู่แล้ว แต่ฝ่ายคุณภรรยาก็ไม่มีอารมณ์ความรู้สึกเลย มันก็เลยไม่แฮปปี้กันทั้งสองฝ่าย เหมือนความสัมพันธ์บางอย่างมันขาดหายไป
เรามาศึกษาเรียนรู้ผู้หญิงกันก่อนดีกว่าว่า เธอทำต่อมความรู้สึกทางเพศหายไปไหน?
สาเหตุที่ทำให้คุณผู้หญิงไม่มีความรู้สึกทางเพศหลังจากคลอดลูกไปแล้วมีมากมายหลายเหตุผล ทั้งทางด้านร่ายกาย จิตใจและอารมณ์ ความสับสนในบทบาทของการเป็นแม่กับการเป็นเมีย รวมทั้งความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนไประหว่างสามีภรรยา
เรื่องทางด้านร่ายกายนี่แหละครับที่เป็นเรื่องที่เห็นได้ชัดที่สุด หลังคลอดไปแล้วอะไรต่ออะไรมันก็เปลี่ยนไป จากหุ่นเซ็กซี่เอวคอดเอวเว้า เห็นแล้วทรมานใจชาย ก็กลายเป็นตัวกลมๆตันๆ หุ่นเหมือนถังแก๊ซ เห็นแล้วมันก็ทรมานใจเหมือนกัน แต่ทรมานกันคนละแบบ พุงก็ห้อย ท้องก็ลาย ตัวก็ใหญ่เทอะทะ เห็นแล้วดูมันน่ากลัวจริงๆ สมัยยังเอ๊าะลองยืนเปลือยกายดูตัวเองในกระจกก็ยังอดหลงรักตัวเองไม่ได้ แต่พอหลังคลอดไปแล้วเวลาเดินผ่านกระจกก็ต้องปิดตาเอาไว้ มันเหมือนโดนผีหลอก สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ก็ทำให้เกิดความไม่มั่นใจในตัวเอง ขนาดตัวเองยังทนดูตัวเองไม่ได้ นับประสาอะไรจะไปเปลือยกายให้สามีดู แทนที่จะมีอารมณ์ เดี๋ยวเห็นหุ่นแล้วจะตกใจหัวหดไปหมด
แต่ก็ไม่มีอะไรมันเลวร้ายไปหมดซะทุกอย่างหรอกครับ ยังมีส่วนดีๆที่ชวนให้คุณสามีตื่นเต้นอยู่บ้าง คุณแม่หุ่นแบบเอเซียอย่างเรา บรรพบุรุษก็ไม่ได้ให้เต้านมมามากมายกันหรอกครับ คุณแม่หลายคนก็มีเต้ามากกว่าไข่ดาวหน่อยนึง แต่ตอนหลังคลอดไม่รู้มันมาจากไหนเยอะแยะ คุณสามีเห็นแล้วก็อดตื่นตาตื่นใจไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องไปแย่งลูกกินนมจนได้ แต่เวลามันโตขนาดนั้น เต้านมมันก็จะคัดเจ็บไปด้วย เดินแกว่งไปแกว่งมายังเจ็บเลย พอมาโดนฟัดก็ยิ่งรู้สึกเจ็บเข้าไปใหญ่ แค่เรื่องนมความรู้สึกมันก็ขัดกันแล้ว สามีเห็นแล้วมันก็อยากจับอยากเล่น แต่คุณแม่กลับไม่อยากให้จับ ไม่อยากให้เล่น คุณสามีก็ต้องค่อยๆเบาๆมือกันหน่อยก็แล้วกัน
ส่วนอวัยวะสำคัญที่พระเจ้าสร้างมาให้เล็กๆ แต่ก็ต้องมารับมือกับของใหญ่ๆ อวัยวะที่ว่าก็คือช่องคลอดนั่นเองครับ ช่องคลอดของผู้หญิงเราสาวๆขนาดใส่นิ้วได้นิ้วนึงก็รู้สึกตึงๆแล้ว แต่พอคลอดลูก หัวลูกขนาดตั้ง 10 ซม.ยังมุดออกมาได้เลย ช่องคลอดก็คงต้องเสียหายยืดหย่อนไปบ้างจากการคลอด ถึงแม้จะรีแพร์มาอย่างดีมันก็ไม่ยืดหยุ่นเหมือนของใหม่ หรือถึงแม้ว่าจะบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานโดยการขมิบก้นอย่างน้อย 30 ครั้งต่อวัน ตามหมอสั่ง ขยันหน่อยแถมเป็น 100 ครั้งเลยก็ได้ แต่ก็ใช่ว่าบริหารแล้วมันจะเข้าที่ฟิตปั๋งได้ทันทีทันใด ดังนั้นตอนมีเพศสัมพันธ์กันใหม่ๆก็เลยอาจรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจก็ได้ กลัวว่ามันจะไม่เหมือนเดิม กลัวมันจะหย่อนหลวมโครกครากแล้วสามีจะไม่ชอบ คิดโน่นคิดนี่เรื่อยเปื่อยก็เลยทำให้ไม่รู้สึกดีดีกับมัน ยิ่งบางทีมีเสียงลมปู๊ดป๊าดออกมาด้วยตอนกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม เหมือนเสียงผายลมไม่มีผิด อารมณ์ก็เลยต้องหยุดชะงัก ความมั่นใจก็หายไปหมด
แล้วตอนหลังคลอด 6 สัปดาห์ที่หมอห้ามไว้ โดยมากแผลมันก็หายสนิทดีหมดแล้ว แต่บางทีก็ยังมีเม็ดปมหลงเหลือยังละลายไม่หมดอยู่บ้าง เวลามีเพศสัมพันธ์มีการเสียดสีก็อาจทำให้รู้สึกเจ็บตรงรอยฝีเย็บได้ บางทีก็ทำให้กลัวว่าแผลมันจะอักเสบ ก็เลยพยายามหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ แล้วก็เลยพาลไม่อยากจะมีเพศสัมพันธ์อีกเลยก็ได้
หลังคลอด โครงสร้างภายในที่ยึดโยงมดลูกภายในท้องน้อยก็ยืดหย่อนยานกว่าตอนที่ยังไม่มีลูก เวลามีเพศสัมพันธ์ มดลูกก็อาจโยกเยกคลอนแคลนได้ง่าย ทำให้จุกเสียดในท้องน้อยได้ง่าย ยิ่งในรายที่คลอดโดยการผ่าตัดคลอดก็อาจมีอาการเจ็บภายในท้องน้อยได้มากกว่านิดหน่อย เพราะภายในท้องน้อยมีการผ่าตัด มีการเย็บมากกว่าการคลอดเอง กว่าจะกลับมาเข้าที่ไม่มีอาการเจ็บอีกเลย ก็คงต้องให้เวลากันมากกว่าปกตินิดหน่อย
คุณแม่หลายคนที่คลอดเอง เบ่งเอง แถมยังคลอดธรรมชาติกันแบบสดๆด้วย ไม่มีการบล๊อคหลังกันให้เสียเวลา เรียกว่าคลอดธรรมชาติกันแบบดั้งเดิมแท้ๆ ซึ่งที่แน่ๆมันก็ต้องเจ็บมากๆๆด้วย เจ็บทั้งท้อง เจ็บทั้งช่องคลอด ยิ่งเจ็บก็ยิ่งจำ ก็เลยเข็ดการคลอดลูกไปเลย พอเข็ดการคลอดก็เลยพลอยเข็ดการมีเพศสัมพันธ์ไปด้วย กลัวทำอะไรกันแล้วเดี๋ยวท้องอีก คลอดอีก เจ็บอีก
หลังคลอดคุณแม่หลายคนก็ต้องมาเหน็ดเหนื่อยกับการเลี้ยงลูก มองไปข้างๆเห็นแล้วโมโห ก็คุณสามีตัวดีเอาแต่นอน ไม่เคยมาช่วยเลี้ยงลูกเลยแม้แต่สักนิด เป็นอย่างนี้ทุกวันก็ยิ่งทำให้ภรรยารู้สึกน้อยอกน้อยใจว่า ทีอยากจะมีเพศสัมพันธ์ก็ยังทำได้ไม่รู้จักเหน็ดรู้จักเหนื่อย แต่พอมีลูกออกมาแล้วไม่เห็นจะช่วยเลี้ยงเลย ..ความรู้สึกอย่างนี้แหละที่เป็นตัวอันตรายที่ทำให้การเลี้ยงลูกมาถ่างความสัมพันธ์ระหว่างกันออกไป ..เห็นหน้าก็แอบโกรธอยู่ในใจแล้ว ไม่ต้องมาสะกิดกันให้ยาก ความรู้สึกทางเพศมันก็เลยหดหายเหือดแห้งไปหมดด้วย
สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ทำให้ความรู้สึกทางเพศหายไปก็คือ ความสับสนในบทบาทของตัวเอง ก่อนหน้านี้สามีก็แต่งตั้งให้มีบทบาทเป็นเมียเพียงอย่างเดียว มันก็ไม่ยาก ไม่ต้องมีใครสอนก็ทำกันได้ แต่พอมีลูก สันชาตญาณของความเป็นแม่มันมีมากกว่า บทบาทของแม่ก็เลยบดบังบทบาทของเมียเสียหมด แล้วเป็นแม่ก็ไม่ใช่เป็นกันได้ง่ายๆ เลี้ยงลูกอ่อนเป็นงานที่แสนเหน็ดเหนื่อย บางทีไม่ได้นอนทั้งคืนก็มี ความเหนื่อยเมื่อยล้าจากการเลี้ยงลูกก็อาจทำให้ไม่มีอารมณ์โรแมนติคในเรื่องอย่างว่าเลย พอหัวถึงหมอนก็หลับซะแล้ว เอาอะไรมาสะกิดก็ไม่มีอารมณ์
แล้วการที่มีลูกมานอนในห้องอีกคนมันก็ทำให้ฟีลลิ่ง ความรู้สึกไม่โรแมนติคอย่างเมื่อก่อน จะทำอะไรก็รู้สึกถึงความไม่เป็นส่วนตัว กลัวลูกจะตื่น กลัวลูกจะเห็น สันชาตญาณของความเป็นแม่จะทำให้ผู้หญิงมีความรู้สึกไม่เป็นส่วนตัวอย่างนี้มากกว่าผู้ชาย คุณแม่บางคนยิ่งไปกันใหญ่ เอาลูกมานอนบนเตียงด้วยกันซะเลย แถมกลัวลูกจะหล่นเตียง ก็เลยเอาลูกนอนกลาง พ่อกับแม่ก็นอนคนละฟากของเตียง สรุปแล้วก็ยังนอนอยู่เตียงเดียวกัน แต่ทำไมความรู้สึกเหมือนกับนอนคนละบ้านก็ไม่รู้
คุณแม่บางคนก็ยังเข็ดกับการตั้งครรภ์ การคลอด ยังเหนื่อยจากการเลี้ยงลูก บอกให้สามีไปทำหมันก็ยังทำเฉย แถมยังไม่ได้วางแผนคุมกำเนิดให้เป็นเรื่องเป็นราว จะมีอะไรกันก็ต้องมีเรื่องต้องกังวลใจทุกครั้ง ก็กลัวการตั้งครรภ์โดยไม่ได้ตั้งใจ ลูกก็ยังเล็กท้องมาอีกคนคงบ้าตายไปซะก่อน ก็เลยทำให้ไม่ค่อยอยากที่จะมีเพศสัมพันธ์
เห็นมั๊ยล่ะครับเหตุที่ทำให้ความรู้สึกทางเพศในช่วงหลังคลอดมันหดหายไป เมื่อเราเข้าใจเหตุต่างๆแล้วก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะมาช่วยกันแก้ไข แต่ก่อนอื่นก็ต้องเข้าใจกันก่อนว่าการมีเพศสัมพันธ์นั้นเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของชีวิตครอบครัวที่จะช่วยชูรสชูรักให้มีความสัมพันธ์ต่อกันแน่นแฟ้น เป็นการแสดงความรักต่อกันได้แม้ไม่ได้พูดอะไรกันเลยซักคำ ลองหลับตาแล้วนึกถึงตอนนั้นดูสิ มันบอกอะไรได้มากมาย จะมาคิดว่าไม่มีอารมณ์ก็ไม่ต้องมีอะไรกันมันก็ไม่ดี เดี๋ยวคุณสามีเขาแอบไปมีอะไรที่อื่นนอกบ้าน ถึงตอนนั้นมันก็สายเกินไปเสียแล้ว เรื่องนี้จะเริ่มที่ใครไม่ได้นอกจากจะเริ่มที่ตัวเราเองก่อน ..ไม่ยากหรอกครับถ้ามีความตั้งใจจริง
เริ่มต้นก็นึกถึงภาพตัวเองตอนก่อนมีลูก คิดถึงเรื่องอย่างว่าตอนช่วงก่อนมีลูก แล้วพยายามตั้งใจให้กลับมาเหมือนเดิมให้ได้ ต้องพยายามคุมอาหาร ออกกำลังกายให้หุ่นกลับมาเหมือนเดิม ท้องจะลายไปหน่อยก็ไม่ต้องสนใจ ปิดไฟก็ไม่เห็นแล้ว ลองกลับมายืนหน้ากระจกเหมือนเดิม ถ้ายังไม่เหมือนเดิมก็คงต้องอาศัยความตั้งใจและความอดทน แล้วสักวันก็จะสามารถกลับมามองดูตัวเองด้วยความภูมิใจเหมือนเดิม ความมั่นใจในตัวเองที่หายไปก็จะกลับมาอีกครั้ง แล้วก็อย่าลืมบริหารกระบังลมโดยการขมิบก้นให้เข้าที่ ให้ช่องคลอดกลับมากระชับเหมือนเดิม ถ้าทำทุกวันก็มักจะกลับมาฟิตปั๋งเหมือนเดิมภายใน 3 เดือน แต่ถ้าทำต่อไปเรื่อยๆก็ยิ่งดีใหญ่ ถ้าเรารู้สึกว่าของเราดีแล้ว สามีติดใจ เราก็จะได้ภูมิใจที่เราสามารถกลับมามีทุกอย่างเหมือนเดิมด้วยตัวเราเอง
มีอะไรกันครั้งแรกๆหลังคลอดก็คงต้องเจ็บแผลกันบ้างเป็นธรรมดา ใครๆก็เป็นกันได้ไม่ต้องไปกังวลหรอกครับ ถ้าเจ็บอยู่ก็คงต้องเปลี่ยนท่าเปลี่ยนตำแหน่งกันนิดหน่อย ท่าปกติเรานอนอยู่ข้างล่าง สามีอยู่ข้างบน เวลาทำอะไรกันมันจะถูเสียดสีตรงแผลพอดี แค่กลับหลังหัน ท่าคลานสี่ขาก็ไม่โดนแผลแล้ว ง่ายจะตายไป หรือทำท่าไหนก็ไม่ถูกใจ ก็ทำเองซะหมดเรื่องหมดราว ซึ่งคุณแม่ก็จะสามารถกำหนดแรง กำหนดมุมได้ด้วยตัวเอง ก็จะเจ็บน้อยลง แต่ถ้ายังไงมันก็ไม่มั่นใจก็โทรไปปรึกษาคุณหมอที่ทำคลอดก็ได้ เลย 3 เดือนไปแล้วก็มักจะไม่มีอาการเจ็บหลงเหลืออยู่เลย ถ้ายังเจ็บก็คงต้องไปหาหมอตรวจซะให้เรียบร้อย ..แต่รับรองได้ว่าหมอคงไม่ลืมอะไรเอาไว้ข้างในหรอกครับ!
เรื่องของบทบาทของความเป็นแม่ กับความเป็นเมียนี่แหละที่สำคัญที่สุด เพราะโดยมากพอมีลูกแล้วก็มักจะเล่นบทบาทของความเป็นแม่ซะมากกว่า จนบางทีสามียังนึกว่าเราเป็นแม่ไปอีกคนนึงเลย เรื่องนี้จะต้องช่วยกันทั้งสองฝ่าย โดยคุณพ่อต้องพยายามหาโอกาสแทรกเข้าไปมีบทบาทตรงกลางระหว่างแม่กับลูกเยอะๆ ให้คุณแม่รู้สึกว่าต้องทำหน้าที่บทบาทของความเป็นเมียบ้าง อย่างให้แม่กับลูกยุ่งกันอยู่แค่สองคน แล้วดูเหมือนพ่อเป็นคนนอก ลุยเข้าไปเลย ช่วยกันเลี้ยงเจ้าตัวน้อย ฟัดลูกบ้าง ฟัดแม่บ้าง ให้ดูมีความสัมพันธ์ที่เป็นธรรมชาติ แม้ว่าบางทีมีลูกนอนอยู่ในห้องด้วยกัน หากช่วยกันเลี้ยง พอลูกหลับก็เป็นเวลาของคุณพ่อคุณแม่สองคนแล้ว อ้อ..อย่างลืมแยกเตียงเจ้าตัวน้อยด้วยนะครับ ถ้านอนเตียงเดียวกันเป็นก้างขวางคอแล้วยิ่งทำอะไรกันลำบาก
ในรายที่ยังไม่อยากมีลูกติดๆกันหัวปีท้ายปี
ก็ควรไปหาหมอ ปรึกษาคุมกำเนิดซะให้เรียบร้อย จะได้ไม่ต้องมาห่วงพะวงว่าจะตั้งครรภ์
เห็นมั๊ยครับว่าการกลับมามีต่อมความรู้สึกทางเพศโตเท่าเดิมเป็นเรื่องที่ต้องทำด้วยตัวเอง
ต้องอาศัยความพยายาม ความอดทนบ้าง แต่ผลที่ได้มันก็คุ้มค่านะครับ
..หากได้ผลเกินคาดอาจต้องมาหาวิธีทำให้ต่อมนี้มันยุบลงก็ได้/.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น