ช่องเล็กๆที่เรียกว่า ช่องคลอด

 


มันช่างวุ่นวายเสียนี่กระไร แค่ช่องเล็กๆ ไม่กว้างไม่ใหญ่ ก็ต้องทำให้หมอสูติใช้เวลาเรียนเฉพาะทางกว่า 3 ปี และก็เพราะช่องคลอดอีกนี่แหละที่ทำให้มีคนเราขึ้นมาได้

 

ทำไมถึงเรียกช่องเจ้าปัญหานี้ว่าช่องคลอด ไม่มีใครรู้ รู้แต่ว่าเกิดมาชาติหนึ่งในช่องนี้สำหรับคลอดจริงๆ แค่ไม่กี่ครั้ง คนที่ผ่าออกก็ไม่เคยใช้ช่องนี้สำหรับคลอดเลยด้วย ที่จริงช่องนี้มันใช้ทำอย่างอื่นเสียมากกว่า แต่จะให้เรียกเป็นชื่อช่องอื่นก็กลัวว่ามันจะน่าเกลียด เอาเป็นว่าเราเรียกมันว่า “ช่องคลอด” เหมือนเดิมก็แล้วกัน

 

นี่แหละ...ช่องคลอด

 

ช่องคลอดเราปกติเป็นช่องไม่ใหญ่ไม่โต เส้นผ่านศูนย์กลางก็ไม่เกิน 2ซม. แต่พูดอย่างนี้ก็อย่าเพิ่งนึกว่าช่องคลอดเป็นช่องกลวงๆ กลมๆ นะครับ ผนังช่องคลอดจะตีบจีบเข้ามาหากัน (เหมือนโลโก้ตัว H ของรถฮอนด้า ไม่รู้ว่าบริษัทฮอนด้าจะดีใจหรือเปล่า) ช่องคลอดจะขยายเป็นช่องกลวงกลมต่อเมื่อมีอะไรแทรกเข้าไปเท่านั้น

 

ผนังของช่องคลอดก็ไม่ได้เรียบลื่นเป็นกระบอกสูบรถยนต์นะครับ ช่องคลอดจะมีเยื่อบุภายในที่พับย่นเป็นลอนลูกฟูกตามแนวขวางคล้ายๆ หีบเพลง ทำให้ช่องคลอดสามารถขยายยืดยาวออกไปได้มาก ปกติช่องคลอดของผู้หญิงเราจะยาวประมาณ 3 นิ้ว แต่ก็ไม่ต้องกลัวนะครับ ถ้าเจอยาวๆ 6 นิ้ว ช่องคลอดก็สามารถยืดขยายตัวตามไปได้...เรียกว่าสู้ตายครับ

 

ช่องคลอดก็เหมือนกับช่องปากนะครับ ปากของเราต้องมีน้ำลายคอยหล่อเลี้ยงให้ความชุ่มชื้นอยู่เสมอ ถ้าปากไม่มีน้ำลาย ปากก็จะแห้ง คอก็แห้งเป็นผง ทรมานน่าดู ช่องคลอดก็เหมือนกัน ถ้าไม่มีน้ำหล่อเลี้ยงมันก็จะกลายเป็นช่องแห้งๆ สงสัยคงจะทรมานมากกว่าปากแห้งคอแห้งแน่ๆ

 

ช่องคลอดตอนท้องกับไม่ท้อง...ไม่เหมือนกัน

 

เพราะระหว่างที่มีการตั้งครรภ์ ร่างกายของว่าที่คุณแม่จะสร้างฮอร์โมนออกมามาก จึงกระตุ้นให้มีเส้นเลือดมาเลี้ยงบริเวณช่องคลอดและปากช่องคลอดมากขึ้น ปากช่องคลอดของผู้หญิงปกติจากเดิมเป็นสีชมพู ก็จะมีสีคล้ำมากขึ้นเป็นสีม่วงๆ เป่งๆ บวมๆ นิดๆ พอมาตรวจ หมอสูติเห็นปั๊บ...อย่างนี้ใช่เลย ท้องแน่

 

ฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้นกับเลือดที่มาหล่อเลี้ยงมากขึ้น ทำให้เยื่อบุภายในช่องคลอดหนานุ่มชุ่มชื้นมากขึ้น มีมูกน้ำหล่อเลี้ยงมากขึ้น ดังนั้น ในระหว่างการตั้งครรภ์ว่าที่คุณแม่จะรู้สึกว่ามีตกขาวออกมามากกว่าปกติ ตกขาวที่ว่านี้จะมีความเป็นกรดมากกว่าตอนที่ยังไม่ตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นเพราะมีเชื้อโรคชนิดหนึ่งชื่อว่า แล็กโตบาซิลลัส คอยย่อยสลายแป้งในช่องคลอดให้มีสภาพเป็นกรด ความเป็นกรดนี่เองที่ช่วยป้องกันเชื้อโรคตัวอื่นๆ ได้

 

เจ้าแล็กโตบาซิลลัสที่ว่านี้ก็เป็นเชื้อโรคที่อาศัยอยู่กับเราโดยไม่ทำให้เกิดโรค ซ้ำยังคอยดูแลช่องคลอดของเราไม่ให้เชื้อโรคตัวอื่นมากล้ำกรายได้ แต่ช่องคลอดก็เหมือนช่องปากที่ต้องการการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดีจากเจ้าของ หากเราไม่แปรงฟัน 2-3 วัน รับรองปากมีกลิ่น ขี้ฟันเต็มปาก ช่องคลอดเหมือนกันนะครับ หากไม่ดูแลรักษาความสะอาดให้ดี ช่องคลอดจะมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว ตกขาวก็เริ่มเปลี่ยนสี จากขาวใสเป็นขาวนวล เหลือง แล้วก็เขียว เดินไปไหนกลิ่นโชยออกมาเชียว พวกหมอสูตินี่จมูกไวจะตายนะจะบอกให้...เดินผ่านกันแวบเดียวก็รู้แล้ว

 

ปกติคนท้องจะดูแลทำความสะอาดช่องคลอดได้ไม่ค่อยดีเท่าผู้หญิงปกติ สงสัยคงมีการใช้งานน้อยลงก็เลยขี้เกียจบำรุงรักษา หรือไม่ก็เกิดมาแขนสั้นไปหน่อย ตอนท้อง ท้องก็โตออกมานี่ครับ จึงทำความสะอาดช่องคลอดได้ยากลำบาก ต้องเอื้อมมืออ้อมท้องตัวเอง ถ้าแขนสั้นไปก็ทำความสะอาดไม่ค่อยถึง...ลำบากเหมือนกันนะ

 

คนท้องจะมีตกขาวออกมามากมายยังไงก็ไม่เป็นไร ขอให้มันขาวใสเป็นใช้ได้ แต่อย่าให้มีสีเขียว สีเหลือง คันหรือมีกลิ่น ถ้ามีอะไรผิดปกติก็ให้รีบทำความสะอาดให้หมดจดทุกซอกมุม ถ้าล้างทำความสะอาดแล้วหายหมดจดก็สบายใจได้ แต่ก็ต้องหมั่นดูแลรักษาความสะอาดให้ดีถ้าล้างแล้วล้างอีก ตกขาวผิดปกติก็ยังไม่หาย...อย่างนี้ต้องไปหาคุณหมอแล้วล่ะครับ เพราะอาจมีการติดเชื้ออักเสบเกิดขึ้นได้ ที่สำคัญระหว่างตั้งครรภ์ห้ามใช้น้ำยาสวนล้างภายในช่องคลอดเป็นอันขาด เพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบขึ้นภายในมดลูกได้ บางรายอาจเกิดการเจ็บครรภ์ก่อนกำหนดได้

 

ช่องคลอดในระหว่างการตั้งครรภ์ก็จะมีความรู้สึกไวกว่าปกติ ทั้งหนานุ่มชุ่มชื้น มูกก็เยอะ ก็เลยทำให้ระหว่างตั้งครรภ์ ผู้หญิงเราสามารถมีความสุขในระหว่างมีเพศสัมพันธ์ได้ดีขึ้น แต่ก็ต้องระวังนะครับ หากมีอาการปวดท้องหรือมีเลือดออกผิดปกติก็ต้องหยุดพักบ้าง แล้วรีบไปหาคุณหมอทันที

 

ถึงเล็กก็เล็กพริกขี้หนู

 

เมื่อใกล้ถึงวันคลอดหลายๆ คนคงจะกลุ้มใจก่ายขมับ ไม่รู้จะให้ลูกออกมาได้ยังไง ก็ท้องโตเบ้อเริ่ม แต่ช่องคลอดอันนิดเดียว คิดแล้วสยอง หลายๆ คนคงนึกภาพไม่ออกเลยขอออกทางลัดดีกว่า ด้วยการผ่าออกทางหน้าท้อง ....อย่างนี้แสดงว่าไม่รู้จักช่องคลอดจริงๆ เห็นอันแค่เนี้ย! แต่เล็กพริกชี้หนูนะ ช่องคลอดสามารถยืดขยายจนศีรษะของเด็กขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 เซนติเมตรลอดออกมาได้สบายๆ มีคนเคยเปรียบช่องคลอดไว้ว่าเหมือนปากของงู เห็นปากนิดเดียวสามารถกินหมูได้ทั้งตัว ลองหลับตานึกเอาเองก็แล้วกันนะ

 

ระหว่างการตั้งครรภ์ เนื้อเยื่อโดยรอบช่องคลอดจะหย่อนตัวลง แต่ผนังของช่องคลอดจะนุ่มหนาแข็งแรงขึ้น สามารถยืดหยุ่นได้ดี ระหว่างการคลอด หัวของเด็กจะทำตัวเหมือนลิ่มค่อยๆ แทรกผ่านมาทีละนิดทีละหน่อย มดลูกบีบตัวทีหนึ่ง หัวของเด็กก็แทรกต่ำลงมานิด ค่อยเป็นค่อยไป

  

มีคำถามว่า “สิบเซนตรงไหนที่ยาวที่สุดในโลก” ก็ตรงช่องคลอดนี่แหละครับ กว่าเด็กจะแทรกเบียดลงมาทีละนิดทีละหน่อย ทั้งเจ็บทั้งปวด กว่าจะพ้นสิบเซนติเมตรของช่องคลอดไปได้ ดูมันเหมือนนานแสนนาน

 

ปกติแล้วช่องคลอดจะมีรอยพับย่นเป็นลอนเหมือนหีบเพลง แต่ในระหว่างกาคลอด ช่องคลอดจะยืดขยายจนรอยย่นต่างๆ หายไปหมด หลายเป็นช่องคลอดเรียบๆ ลื่นๆ เพื่อจะได้มีแรงเสียดทานน้อยที่สุด เด็กจะผ่านออกมาได้ง่ายที่สุด

 

คนที่จงเกลียดจงชังไขเด็กนักก็ระวังไว้เถอะครับ บางคนเที่ยวเสาะหาน้ำมะพร้าวมากินทุกวันไม่ได้ขาด ด้วยเชื่อว่าจะไปช่วยล้างไข ไปล้างทำไมล่ะครับ เดี๋ยวตอนคลอดจะรู้สึก.. ไขของเด็ดนี่แหละครับที่ช่วยหล่อลื่นช่องคลอดในระหว่างการคลอด เนื้อกับเนื้อแห้งๆ เบียดกัน มันฝืดอย่าบอกใคร .... ลองเอามือซ้ายกำจับข้อมือขวาไว้สิครับ สมมุติกำมือซ้ายเป็นช่องคลอด แขนข้างขวาเป็นตัวเด็ก กำมือซ้ายบีบไว้แน่นๆ เราจะดันมือขวาผ่านไปได้ยากมาก ก็เหมือนกับตอนคลอด ถ้าเบ่งออกมาโดยเด็กไม่มีไขเลย...เหมือนฝันร้ายเลย! เบ่งจนลิ้นห้อย ลูกก็เลื่อนลงมาได้หน่อยหนึ่ง ถ้าเด็กมีไขช่วยหล่อลื่นก็สามารถเลื่อนผ่านช่องคลอดไปได้สบายๆ เบ่งปรี๊ดเดียวก็ไหลออกมาแล้วล่ะครับ

 

ตอนหัวเด็กจะโผล่ออกมาดูโลกข้างนอก คุณหมอจะตัดฝีเย็บเพื่อขยายให้ช่องคลอดกว้างขึ้น การตัดฝีเย็บจะช่วยให้ปากช่องคลอดกว้างขึ้นอีกเยอะ เด็กคลอดออกมาได้สะดวกมากขึ้น ทั้งยังป้องกันไม่ให้กล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อโดยรอบอื่นๆ มีการยืดขยายตัวมากเกินไป ตัดฝีเย็บแล้วพอเย็บกลับเข้าที่ปากช่องคลอดก็ยืดไม่มาก ถ้าไม่ตัดฝีเย็บ กล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อโดยรอบก็จะยืดออกๆ ยืดมากๆ ก็ทำให้เกิดการหย่อนตามมา บางทียืดไม่ไหวก็มีการฉีกขาดของปากช่องคลอดได้ แผลฉีกขาดก็มักจะกะรุ่งกะริ่ง ทั้งเจ็บทั้งไม่สวย กว่าจะเย็บประกอบกลับได้เหมือนเดิมก็ต้องเหนื่อยเหมือนกัน

 

ดังนั้น ถ้าหมอจะตัดฝีเย็บ ก็ให้หมอเขาตัดไปเถอะครับ ดีกว่าฉีกขาด หรือยืดหย่อนยานในภายหลัง เดี๋ยวแผลไม่สวย หรือสามีบ่นว่าหย่อนก็จะมาโทษหมออีก

ความคิดเห็น